
พ้นเดือนแรกที่เปลี่ยนงานมาทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าน่าจะทำได้ดี ถ้าถามตัวเองว่าทำได้ดีไหม? ก็บอกได้ว่าเริ่มต้นได้ไม่ดี เพราะทุกๆ อย่างมันเริ่มนับหนึ่งใหม่ แถมยังเจอพายุโหมกระหน่ำซัมเมอร์ซอลที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตไอ้อ้วนคนนี้ แต่ผมคิดว่าก็ยังสนุกและมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากอยากเรียนรู้ด้านนี้ให้ดีให้ได้ กัมบัตเตะ…(ถอนหายใจหนึ่งครั้งถ้วนนะครับ)
ก่อนที่จะลืม สำหรับเดือนแรกในที่ทำงานใหม่จะผ่านพ้นไปได้ดีไม่ได้ หากไม่มีน้องคนนึงที่ช่วยทำแทบทุกอย่าง ดูแลทุกอย่าง(จริงๆ) รวมถึงดูแลผมด้วย (น้องทำได้ยังไงนี่) นั่นคือน้องจ๊ะเอ๋ คือถ้าไม่มีน้อง ผมคงมืดแปดด้านจริงๆ ขอบคุณนะครับ
แล้วพี่จะเซ่นด้วยชาไข่มุก Mr.Shake บ่อยๆ นะครับ…
ถ้าพูดถึงงาน ยังคงเป็นสิ่งที่ผมต้องเรียนรู้อย่างหนักต่อไป แต่สำหรับทีมใหม่แล้ว การปรับตัวของผมนั้นคงบอกว่าไม่ยากเลยนอกจากทำใจรับสภาพความเป็นพี่แบบแทบยกทีม เพราะพอผมเข้าไปแล้วก็แทบจะขึ้นชาร์ตอันดับต้นๆ ของทีมทันที อารมณ์แบบ New Entry, Highest Calorie …น้องๆ ในทีมน่ารักและทุกคนขยัน work hard, play hard, eat hard (เน้นอันหลังเยอะๆ 555) พี่แฮปปี้มากครับกับสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบนี้ครับ
มาพูดถึงชื่อหัวของบล็อกดีกว่า ที่มาที่ไปก็คือวันนี้ผมมีเหตุต้องกลับไปที่รอยเตอร์เพราะมีของที่ต้องไปรับเพราะฝากน้องฝึกงานซึ้อและหิ้วจากอเมริกา จริงๆ แล้วนี่คือครั้งที่ 2 ใน 1 เดือนที่ได้กลับไป โดยครั้งแรกไปตอนที่คนส่วนใหญ่เลิกงานแล้ว แต่รอบนี้แทบทุกคนนั่งทำงานกันอยู่เกือบทั้งหมด รวมทั้งมีเวลานิดเดียวที่จะคุยกันกับพี่ๆ น้องๆ ที่เคยทำงาน
แม้ผมจะออกไปแล้ว ผมก็ยังรู้สึกเหมือนไม่ได้ออกไปจากทีม ทุกคนหันมายิ้มและถามไถ่สาระทุกข์สุกดิบ ถามว่างานใหม่เป็นไงบ้าง สบายดีไหม รับตำแหน่งเพิ่มใหม่ (เฮ่ย!) กับสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยมาเกือบ 10 ปี ผมก็เหมือนไม่ได้ไปไหนไกลเลยจริงๆ ก็คงเป็นเพราะความผูกพันหล่ะมั้งครับ
(อันนี้ไม่เคยบอกใครมาก่อน…ทุกครั้งที่เหนื่อย ผมหยิบการ์ดที่พี่ๆ น้องๆ เซ็นมาอ่านบ่อยๆ ภาพเก่าๆ เวลาที่ได้ทำงานด้วยกัน ทะเลาะกัน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ทุกอย่างมันก็กลับมาจริงๆ นะ)
สำหรับที่ใหม่แล้ว วันนี้มีน้องคนนึงออกจากทีม น้องชื่อแก้ว ผมจำน้องเขาได้ตั้งแต่ก่อนที่จะได้เข้ามาทำงาน เพราะก่อนจะได้เข้าทำงานผมต้องทำการบ้านโดยมีโจทย์ที่ต้องเข้าไปนำเสนอ และช่วงที่เข้าไปนั้นจะมีน้องคนนึงที่ถาม ถามแหลก ถามจนตอนนั้นผมเหวอสุด จนพาลคิดไปว่างานใหม่นี่มันจะนรกขนาดนั้นเลยเหรอ(ว่ะ) 555 แล้วผมก็จำชื่อและหน้าน้องเขาไว้เลยดุจแค้นฝังหุ่น (ผมจำน้องๆ ที่เข้าห้องนั้นได้ 4-5 คน โดยเฉพาะคนที่ยิงคำถามเรื่องตัวเลขใส่พี่นี่ จำแม่นมากกก)
ช่วงค่ำของวันนี้มีงานเลี้ยงเล็กๆ อำลาแก้ว ซึ่งส่วนตัวผมเองไม่ได้สนิทกับแก้วนะ แต่สำหรับน้องๆ ในทีมที่อยู่กันมานานกว่าผม ได้ทำงานร่วมกันมานานแล้ว หลายคนร้องไห้ เพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ได้ร่วมงานกับน้องแก้ว
ภาพที่ผมเห็นมันสะท้อนกลับไปหาภาพที่ผมเจอมาเมื่อเดือนก่อนหน้า…
ความผูกพันระหว่างกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันมันเกิดขึ้นยากนะ เพราะกว่าจะเริ่มทำความรู้จักกัน กว่าจะมีอะไรต่างๆ ที่เข้ามาและกลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนที่จะผลักดันทำ ยิ่งได้เจอสุขและทุกข์ด้วยกันยิ่งตอกย้ำความผูกพันให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ให้แนบแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว และความผูกพันนี้มันจะกลับมาเมื่อเราจะต้องห่างกันหรือมีเหตุที่ทำให้ต้องห่างกันไป ซึ่งมันยากนะครับที่จะเก็บความเสียใจไว้ได้
ผมเองก็น้ำตาคลอครับบ่องตง แม้ตัวผมนั้นจะเพิ่งมาร่วมทีม แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของน้องๆ เหล่านี้ได้
บ่องตงว่า แรกๆ ที่ผมได้ทำงานและรู้ว่าคนลาออก ผมทำใจไม่ค่อยได้นะ คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาเมื่อคนที่ผมสนิทด้วยต้องออกไปคือ เขาจะออกไปทำไม เขารู้หรือเปล่าว่าเราเสียใจ แต่พอเมื่อแก่ตัวลง (ใช้คำแร๊งแรง) ก็เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า ทุกคนมีวิถีการดำรงชีวิตที่ต่างไป ตัวไม่อยู่แต่ความทรงจำ ความผูกพันในช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันนั้นมันยังอยู่ และจะอยู่กับเราทุกครั้งเมื่อเรานึกออก หรือเมื่อเรารื้อกล่องความทรงจำที่ดีขึ้นมา
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ผมนึกถึงเพลงนึง ที่ผมเองนึกถึงเมื่อตอนที่ผมจะออกจากรอยเตอร์ ซึ่งผมเชื่อว่า
เราจะมีกันและกันเป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป ก็เพราะหัวใจเราผูกกัน…
httpvh://www.youtube.com/watch?v=7fnRP0SfPg8