โดยปกติการถ่ายภาพผ่านกล้องมือถืออย่าง iPhone 4 นั้นเป็นอันรู้กันว่าภาพที่ถ่ายออกมา ส่วนใหญ่จะดูสวยงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ยกเว้นเวลากลางคืนที่ค่อนข้างกากพอตัว) ไม่ว่าจะเป็นรูปคน สัตว์ สิ่งของ he she it they ก็ถ่ายกันได้สบายๆ แต่จะมีอยู่กรณีนึงที่เราจะต้องเจอกับข้อจำกัดของกล้องถ่ายรูปบนมือถือไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดยี่ห้อใดก็ตาม นั่นก็คือการถ่ายรูปวิวแบบมุมกว้างๆ หรือเรียกว่า Panorama ที่หากอยากเก็บมุมมองให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรามองเห็น จะทำได้ยากมากถึงยากที่สุด
วันนี้ผมเลยหยิบ app ตัวนี้ ซึ่งเกิดมาแก้ปัญหาการถ่ายภาพแบบเก็บวิวกว้างๆ โดยตรง(เกือบจะ)เป๊ะ แถมยังใช้แบบ “ง่ายโคตรๆ” นั่นคือ app Dermandar ด้า ด้า ด้า…แช๊ะ!
ก่อนอื่นขอพูดถึงผู้สนับสนุนบลอคกันก่อนนะครับ (เป็นรายแรกซะด้วย ^_^) นั่นคือ DTAC Internet
“สำหรับท่านที่ใช้งาน aircard iPad หรือ tablet อื่นๆ ทาง dtac เปิดตัวแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตใหม่สุดคุ้ม เน้นจุดขายแรงโดนใจออนไลน์ได้เร็วทุกที่ ทั่วไทย ที่มีให้เลือกทั้งแบบคิดตามระยะเวลาชั่วโมงการใช้งาน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 149 บาท ใช้อินเทอร์เน็ตได้ 50 ชั่วโมง พิเศษรับเพิ่มอีก 50 ชั่วโมงสำหรับลูกค้าใหม่ หรือแบบคิดตามปริมาณเมกะไบต์ที่ใช้งาน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 299 บาทใช้อินเทอร์เน็ตได้ 500 เมกะไบต์ พิเศษรับเพิ่มอีก 500 เมกะไบต์ สำหรับลูกค้าใหม่ หรือแบบเล่นอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดเพียงเดือนละ 790 บาท (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
สอบถามเพิ่มเติมหรือสมัครได้ที่ 1678 dtac call center และ สำนักงานบริการดีแทค
เว็บ http://www.dtac.co.th/aircardtablet
Facebook: http://www.facebook.com/dtacinternet
กลับมาเรื่อง App กันต่อนะครับ…
ก่อนหน้านี้ก็มี app ที่สำหรับถ่ายรูปทั่วๆ ไปที่มีโหมด Panorama ฝังอยู่ในนั้นอยู่แล้ว แต่การถ่ายรูปนั้นจะเป็นการให้เราถ่ายภาพ ณ ตำแหน่งเริ่มต้นก่อน จากนั้นจะมีขอบของภาพโผล่ขึ้นมาแพลมๆ ด้านซ้ายมือ จากนั้นเราก็ต้องพยายามเล็งให้วิวที่เราจะถ่ายตรงกับภาพต่อกับตำแหน่งนั้นๆ เอง ซึ่งต้องบอกว่า มือใครนิ่งก็ดีไป แต่ใครไม่นิ่ง ภาพก็เลื่อนไปมา โอ้วช่างยากเสียจริงจอร์จ!
แต่ Dermandar นั้นเป็น app ถ่ายภาพที่เอาไว้ใช้ถ่ายภาพแบบเก็บมุมกว้าง Panorama โดยเฉพาะ โดยไม่มีโหมดอื่นให้เลือกเลยจริงๆ แต่อย่างที่ผมบอกไปว่า app มันใช้งานง่าย โคตรโคตร จริงๆ มาดูกันดีกว่า ว่าจะง่ายอย่างที่ผมขี้โม้จริงหรือเปล่านะ ^^
เมื่อเปิด app ขึ้นมา ก็จะมีสัญลักษณ์หลักๆ อยู่ 2 ส่วนคือ สัญลักษณ์เหมือนหยินหยางที่จอด้านบน และ ด้านล่างจะมีปุ่ม Home เพื่อเข้าไปเมนูต่างๆ, ปุ่ม Shutter และ ส่วนของ Help ตามลำดับ
อาจจะงงๆ กันว่า หยินหยางมาได้ไง (ที่จริงผมตั้งชื่อขึ้นมาเองหล่ะครับ ฮ่าๆ) แต่จะบอกให้ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ช่วยในการใช้งานถ่ายภาพที่เจ๋งเป้งสุดๆ ตั้งแต่ผมเคยเจอมา นั่นคือเป็นตัวที่ช่วยเล็งตำแหน่งของการถ่ายเพื่อการกดชัตเตอร์ครับ ตรงนี้จะอาศัยความสามารถของ iPhone 4 คือ Gyroscope เพื่อช่วยในการกำหนดตำแหน่งของการถ่ายภาพอัตโนมัติ ยังงงอยู่ใช่ไหมครับ ผมจะสาธิต กรีกุลให้ดูเป็นขั้นหล่ะกันครับ
ขั้นแรก ให้เราตั้งกล้องเป็นแนวตั้งนะครับ แนวตั้งเท่านั้น เพราะ app นี้ไม่สามารถทำงานได้แบบแนวนอน จากนั้นให้เรากดที่ปุ่มกล้องถ่ายรูปตรงกลางนะครับ 1 ครั้ง ณ ตำแหน่งที่เราจะเริ่มจับภาพ ถ้าไม่อยู่ในตำแหน่งในการจับภาพ ปุ่ม shutter จะไม่สามารถกดได้ จะสังเกตว่าเมื่อมีการกด shutter แล้วที่ตรงสัญลักษณ์หยาง จะมีขีดเล็กๆ ขึ้นมา นั่นคือมีภาพถูกถ่ายไปแล้ว 1 รูป
จากนั้นให้เราเลื่อนกล้องแพนไปทางซ้ายหรือขวาตามที่เราปรารถนา โดยสัญลักษณ์หยินหยางนั้นจะเป็นตัวบอกตำแหน่งว่า ณ ที่เราเล็งอยู่นั้นตรงกับภาพที่แล้วหรือยัง และความเล็ก-ใหญ่นั่นคือการแทนตำแหน่งของการถ่าย ว่าใกล้หรือไกลไปจากตำแหน่งก่อนหน้านี้หรือเปล่า ซึ่งถ้าทั้งคู่ประกบกันแล้ว app จะทำการจับเวลาถอยหลังประมาณ 1 วินาที และจะถ่ายภาพให้ทันทีโดยไม่ต้องกดอะไรเลย! และจำนวนขีดในหยางสีน้ำเงินก็จะเพิ่มอีก 1 ขีด
และหลังจากนั้น ให้เราเลื่อนกล้องไปทางขวาเรื่อยๆ จนกว่าเราจะพอใจ เมื่อเราพอใจแล้ว ให้เรากดที่ปุ่ม Shutter อีกครั้งจะเป็นการสิ้นสุดการเก็บภาพ หรือเราสามารถถ่ายรูปแบบ 360 องศาแบบคุณธนินวัฒน์ก็ได้เช่นกัน(ทำท่าเอามือหมุน) โดยจะถ่ายภาพได้สูงสุดอยู่ที่ 14 รูปครับ
เมื่อเรากด shutter ครั้งที่สอง หรือครบ 14 รูป อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว App ก็จะทำการประมวลผลภาพที่เราถ่าย และจะทำการรวมภาพและแสดงภาพที่เราถ่ายมา โดยหมุนไปตามที่เราถ่ายมา ซึ่งรูปที่ได้นั้นก็จะเป็นรูปที่ทำการต่อกันเรียบร้อยแล้ว ตึ่ง! ซึ่งเราสามารถจะเลือกการยกเลิกการเก็บภาพหรือจะเก็บภาพลงใน Photo Album ใน iPhone ได้
update 21/06/2011
กลัวจะงงกัน เลยทำ video วิธีใช้งานแบบง่ายๆ ถ่ายโดย HTC Wildfire S ลองชมแล้วกันนะครับ (เสียงเน่ามาก เพราะพูดหลังจากกลับมาจากที่ทำงานเกือบ 6 ทุ่ม -_-“)
[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=uMBxvy55XgI]
ลองดูตัวอย่างภาพที่ผมถ่ายมาดูครับ บางภาพอาจจะมีการไม่ต่อกันเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของวัตถุไปบ้าง แต่ก็ยังต่อภาพได้ค่อนข้างดีมากๆ
ส่วนของการถ่ายรูปหมดแล้วครับ มาดูส่วนอื่นดีกว่า เพราะ Dermandar นั้นไม่ได้มีแค่การถ่ายรูปอย่างเดียว แต่สามารถดึงขึ้นไปแชร์ให้ชาวโลกได้ดูกันอีกด้วยนะ
ให้กดเข้าที่ปุ่ม Home ด้านซ้ายล่างของจอ จะแยกเป็นเมนูย่อยๆได้แก่ Create, My Gallery, Public Gallery และ Settings
โดยหน้าแรกที่เข้ามาจะเป็น My Gallery คือส่วนที่เก็บภาพที่เราถ่ายทั้งหมด โดยด้านบนจะมีเมนูย่อยอีกนั้นคือ Local คือที่ที่เก็บรูปที่เราถ่ายทั้งหมดในรูปแบบ Panorama, Online คือรูปที่เราทำการแชร์ให้ชาวโลกได้ดู ซึ่งเราจะต้องทำการ Sign up หรือ Sign in ผ่าน app ก่อน และ Favorite คือรูปที่เราชอบ (แต่เหมือนจะยังใช้งานไม่ได้นะครับ)
วนมาที่ Local เมื่อเราเลือกที่รูป ก็จะเป็นการแสดงรูปขนาดใหญ่ในแนวนอน แต่ถ้าเราเลือกที่ปุ่มด้านขวา จะมีเมนูเพิ่มขึ้นมา โดยจะมีตัวเลือกให้เรา Upload รูปขึ้นไปที่ Server ของ Dermandar, share รูป ซึ่งเราสามารถแชร์รูปหรือแชร์ URL ผ่านทาง Facebook, Twitter, Read It Later, ส่ง Link ผ่าน E-Mail, เก็บไว้ใน Photo Album หรือจะเปลี่ยนไปเปิดใน Safari ก็ได้นะครับ โดยหน้าเวปนั้นจะเป็นการแสดงผลแบบ HTML5 ซะด้วย
และด้านล่างจะเป็นการกรอกข้อมูลที่เราถ่าย ในส่วนของ Panorama Info ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมของรูป เราสามารถใส่รายละเอียดของรูปได้ไม่ว่าจะเป็นชื่อรูป,สถานที่ และ Tag ของรูปตามที่เราต้องการ ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะต้องใส่ในกรณีที่เราจะ upload ขึ้นไปบน Server ของทาง app เท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้ upload ก็จะเป็น optional คือไม่ใส่ก็ได้
ต่อมาคือ Online จะแสดงภาพที่เรากด Upload ขึ้นไปเท่านั้นครับ โดยเมื่อเรากดเข้าไปที่รูปทางด้านขวามือ โดยรวมก็จะเหมือนกับที่แสดงในหน้า Local แต่ที่เพิ่มมานั่นคือจำนวนการชม ซึ่งเกิดจากการเปิดของคนใช้งานที่เข้ามาดูรูปเรา แต่ของผมนี่มองข้ามๆ ไปก็ได้นะครับ อายเค้า มีดูอยู่คนเดียวเอง (-_-“)
มาต่อกันที่ Tab ด้านล่างอันต่อมานั่นคือ Public Gallery นั่นคือเป็นส่วนที่ชาวโลกเค้า upload รูปภาพขึ้นไป share กันให้ชม ซึ่งจะแบ่งเป็น
- Latest คือการแสดงภาพที่มีคนเล่น Dermandar upload ขึ้นไป โดยเรียงจากความล่าสุด จะอยู่ในตำแหน่งบนสุด
- Trending คือภาพที่มีคนกดเข้าไปชมมากที่สุด โดยรูปแรกคือรูปที่มีคนดูเยอะที่สุด
- Near Me คือภาพที่คน upload รูปอยู่ในระแวกเดียวกับเรา แต่คำว่าระแวกนี่ น่าจะเป็นประเทศเดียวกันมากกว่าครับ เพราะที่ผมลองเล่นดูที่โคราช กลับเจอ near me เป็นคลองแสนแสบไปซะได้
แถบสุดท้ายนั่นคือ Settings คือการปรับแต่ง app ซึ่งมีไม่มากมาย ซึ่งมาให้เลือกว่า เราจะเก็บรูปที่เราถ่ายลงใน Photo Album แบบอัตโนมัติเลยหรือเปล่า, เราจะซ่อนรูปที่เรา upload ไปหรือไม่ และยังมีการเก็บ Cache ของรูปเพื่อช่วยในการแสดงผลเร็วขึ้นในการโหลดครั้งต่อไปหาเปิดรูปเดิม และการ logout ออกจากระบบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น app เอง หรือออกจาก Facebook, Twitter
หมดหล่ะครับ มาดูข้อดีข้อเสียของ Dermandar กันดีกว่าครับ
ข้อดี
- ฟรี (ใครๆก็ชอบ)
- ใช้ง่ายมาก
- รูปที่ถ่ายออกมาทำได้ค่อนข้างเนียนมากๆ เมื่ออยู่ในสภาพแสงที่มีพอ
ข้อเสีย
- ใช้ได้เฉพาะ iPhone 4, iPod touch gen4th, iPad2 เท่านั้น… (ทุกตัวที่มี Gyroscope รองรับ)
- ไม่สามารถปรับแสงเพื่อชดเชยแสงได้ ซึ่งทำให้การถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยทำได้ไม่ดี ตำแหน่งคลาดเคลื่อนได้ง่าย
- ไม่มีให้ใช้งาน Flash (แต่ logo มี flash ทำไม!)
- ส่วนของการแชร์กระจัดกระจายมั่วไปหน่อย น่าจะจัดหมวดหมู่ให้ดีกว่านี้
- ไม่มีส่วนของรูปที่กดเพิ่มเข้าไปใน Favorite
- ยังเจอ Bug อยู่บ้าง ซึ่งเจอแค่ในบางเครื่อง เช่นคือสัญลักษณ์หยิน (สีขาว) หายไปหลังจากกด shutter ครั้งแรกไป ซึ่งตอนนี้ที่ผมหาวิธีเอาสัญลักษณ์นี้กลับมาก็มีเพียงแค่การกดที่ Home และกด Create เพื่อกลับมาอีกครั้ง แต่อาจต้องทำหลายรอบอยู่นะครับ
ส่งท้ายกันนิด
Dermandar เป็น app ที่ผมต้องบอกว่าผมเจอโดยบังเอิญจริงๆ (หมายถึงเจอแบบไม่ได้คาดคิด ไม่ใช่เจอโดยคุณบังเอิญนะครับ) และพอลองได้เล่นแล้ว พบว่ามันทำงานได้ดีเกินตัว app และใช้งานง่ายมากๆ นอกจากนี้ยังแชร์แถมยังสามารถดูภาพของคนอื่นๆที่แชร์ขึ้นมาด้วย แม้จะมีข้อผิดพลาดพอสมควร หรือบางอย่างที่ขาดหายไปในความเห็นผมที่ได้พูดถึงในข้อเสียไปแล้วก็ตาม
จริงๆแล้ว มี app อื่นสำหรับถ่ายภาพ Panorama ด้วยชื่อว่า 360Pano แต่ว่าต้องเสียเงิน 30 บาท ด้วยเหตุที่ Dermandar มัน “ฟรี” จึงเป็นสาเหตุให้คุณผู้อ่านโปรดเข้าไป App Store แล้วจัดการโหลดมาลองเล่นดูซะนะครับ แล้วจะติดใจอย่างผม
Download ได้ที่นี่ครับ http://itunes.apple.com/th/app/dermandar/id441183050?mt=8
เยี่ยมมากๆเลยครับ ทำได้ดี สอนเข้าใจง่ายมากครับ ^^
ขอบคุณมากครับผม 🙂