บอกเล่าประสบการณ์การสั่งของจาก Dell

บทความนี้ ทาง Dell Thailandไม่ได้สนับสนุนอะไรผมทั้งนั้น มีแต่ผมที่สนับสนุนเงินไปให้ทาง Dell ไป 2-3 อย่างหล่ะ (ฮ่า…) ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพียงแค่อยากจะบอกเล่าวิธีการสั่งซื้อของจากทาง Dell ที่ผมได้ซื้อมาใช้เองจริงๆ เพราะตอนที่ผมสั่ง พยายามหาข้อมูลแล้ว มีแต่คนบอกแค่ว่า “โทรสั่งเลย” ผมเลยตัดสินใจบอกเล่าแต่ละขั้นตอนในการสั่ง เผื่อจะเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้อ่านได้ครับ ^_^

ปกติเวลาซื้ออะไรก็ตามเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เราคงต้องเหาะไปห้างที่ลุงเสกไม่ชอบนั่นคือพันธุ์ทิพย์ หรือ Fortune หรือที่ไหนก็ตามที่มีคอมพิวเตอร์ขาย หรือไม่ก็ต้องรองานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่จัดกันยังกับ Midnight Sales ที่มีกัน 3-4 เดือนครั้ง เพื่อไปแย่งกันซื้อ แย่งกันหนี Vat หรือแย่งกันต่อรองของแถม อะไรก็ว่ากันไป

และยี่ห้อส่วนใหญ่แล้วเราก็หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป แต่บางยี่ห้อก็ไม่มีหรือมีก็ถือว่าน้อยมาก

ยี่ห้อที่หาซื้อยาก หนึ่งในนั้นคือ Dell

ผมค่อนข้าง Happy กับบริการและชื่อเสียงของ Dell โดยส่วนตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะผมเคยซื้อ Laptop ให้น้องด้วยราคาที่มากกว่าชาวบ้านเค้าประมาณ 15% เพราะต้องการแลกกับบริการหลังการขายที่ตอนนั้นได้ยินว่าดี และแล้วหวยก็ออกที่เครื่องที่ผมซื้อ เพราะ Webcam ที่ติดมากับ Laptop ของน้องผมเสีย เลยโทรไปทาง Dell จากนั้นก็มีช่างมาซ่อมให้ถึงบ้านเลย (ที่โคราชด้วยนะ) ซึ่งช่างเป็น Outsource ที่ทาง Dell ทำ Contract เอาไว้ แต่ว่าจะใช้อะไหล่ของ Dell โดยตรงเปลี่ยนให้ ผมเลยเก็บความประทับใจไว้จนถึงตอนนี้

มาตอนนี้ Dell เริ่มมีให้เห็นตามห้างคอมทั้งหลายบ้างแล้ว แต่ก็จะเห็นเพียง Laptop หรือ Desktop ที่มีขายอยู่บ้าง แต่ถ้าอยากได้อย่างอื่นก็จะหาไม่ได้ หรือหายากมาก (ผมไม่เคยเจอนะ) แต่ที่ไม่เห็นแน่นอนนั่นคือ จอ Monitor ของ Dell

แล้วถ้าอยากได้จอ จะทำยังไงหล่ะ? ตอบ …โทรศัพท์สั่งเอาเลยครับ!

ก่อนจะถึงขึ้นตอนการสั่ง สืบเนื่องมาจากผมได้ยินชื่อเสียงของจอ Dell มาสักพักแล้วหล่ะว่าแหล่มมากและประกันเยี่ยม เพราะเราสามารถซื้อประกันต่อได้ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีระยะเวลาประกัน 3 ปี แต่เราสามารถซื้อประกันต่อได้เป็น 5 ปี ด้วยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย นอกจากนั้น ถ้ารุ่นที่เราซื้อดันทะลึ่งเสียในระยะเวลาประกัน ก็มี On-Site Service วิ่งมาซ่อมถึงบ้านเหมือน Laptop แต่ถ้าซ่อมไม่ได้ต้องเปลี่ยนจอ แต่รุ่นของเราทะลึ่งเลิกผลิตแล้ว เราจะได้รุ่นล่าสุดที่ใกล้เคียงกับที่เราใช้อีกต่างหาก โอ้วเย่~

แต่ความเจ๋งขนาดนี้ก็ต้องแลกกับราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นอยู่พอสมควรนะครับ แต่ผมว่าคุ้มพอที่จะจ่ายไปนะครับ…

เตรียมตัวก่อนโทรสั่ง

เราสามารถดูรุ่นที่เราอยากได้จากเวปนี้ครับ https://dell.co.th/  http://www.dellpromotion.com/ จากนั้นให้เข้าไปดูใน The Business Catalog ครับ หรือเข้าทางนี้ได้เลย http://www.dellpromotion.com/e-catalog/index.html

The Business Catalog จะมีการ Update ข้อมูลทุกๆ เดือน ซึ่งราคาแต่ละเดือนและรุ่นที่มีก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย และรายการใน Catalog นั้น แล้วนอกจากจอที่เราจะสั่งได้แล้ว เราก็ยังสามารถสั่ง Laptop, Desktop หรือแม้กระทั่ง Server ได้ด้วยวิธีการโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ และราคาที่เห็นจะยังไม่รวม Vat นะครับ อย่าลืมบวก 7% ด้วยนะครับ แต่ไม่มีค่าส่งแต่อย่างใด (ราคาคงรวมค่าส่งไปแล้วหล่ะ อิอิ)

สำหรับ Laptop, Desktop, Server เราสามารถสั่งได้แบบตาม Spec ที่เราต้องการได้ในบางอย่างที่นอกเหนือจาก Spec ที่เราเห็น เช่นเปลี่ยนความเร็ว CPU, เพิ่ม Ram, เปลี่ยนจอ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมจากเวปอื่นๆ หรือต้องสอบถามเวลาสั่งกับเซลส์ที่รับสายเราครับ

และบางรุ่นที่เราอยากได้ก็อาจไม่มีพิมพ์ใน Catalog ก็จดชื่อรุ่นแล้วรอถามได้ครับ

ถึงเวลาสั่ง

เมื่อเรารู้แล้วว่าเราอยากจะสั่งรุ่นอะไรแล้ว มีเบอร์โทรศัพท์ให้กด 2 เบอร์ครับ (จริงๆ ดูที่ Catalog ได้) เบอร์ 1800-060-016 หรือถ้าใช้โทรศัพท์มือถือ 001-800-601-5623 โดยเวลาที่โทรได้คือ 08:00-17:30 ซึ่งไม่ต้องห่วงนะครับ พนักงานเป็นคนไทยแท้ 100% จาก Dell Thailand (ถ้าคุณกดเลือกภาษาไทย)

ตอนผมสั่ง ผมโทรผ่านมือถือเองครับ…

จากนั้นเมื่อเราต่อสายไปทางเซลส์แล้ว เราก็สามารถสอบถามสิ่งที่เราอยากจะถามได้ เช่นถามข้อมูลรุ่นที่เราสนใจ, ถามราคาคร่าวๆ ที่ของรุ่นที่เราสนใจ หรือรุ่นอื่นๆ แม้จะไม่มีอยู่ใน Catalog ก็ตาม

ตัวอย่างจริงๆ ที่ผมสั่งมาใช้เองคือ ตอนแรกสนใจและจะสั่งจอ U2311H แต่พอถามไปถามมากับเซลส์ปรากฏว่า ตอนนี้มีรุ่นล่าสุดเพิ่งออกมาเลย เป็นรุ่น U2412M ด้วยราคาหมื่นนิดๆ ซึ่งมันไม่มีใน Catalog ผมเลยขอเวลาวางสายหาข้อมูลก่อน เพราะราคาต่างจากรุ่นที่ผมตั้งใจจะซื้อประมาณ 3000 บาทเลยทีเดียว

พอโอเคแล้วจะเริ่มสั่ง ทางเซลส์จะขอชื่อที่อยู่ในการจัดส่งของเรา และจะส่งใบเสนอราคา (Quotation) กลับมาให้เราในรูปแบบ pdf มายังเมลของเรา โดยในใบเสนอราคาให้เราตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ และรุ่นที่เราสั่งไป เพื่อว่าถ้าเจอข้อผิดพลาดแล้วจะได้แจ้งกลับไปในตอนที่เราโทรไปยืนยันการสั่งซื้อ

และอย่าลืมถามชื่อเซลส์ที่เราคุยด้วยและสังเกตชื่อเซลส์ที่อยู่ใน Quotation ด้วยนะครับว่าต้องตรงกัน

สำหรับใบเสนอราคานั้น ให้เรา Print ออกมาแล้วเซ็นชื่อลงไปในช่อง Authorizing Signature ทั้งสองหน้า (มีให้เซ็นหน้าละ 1 ที่ ด้านล่างของกระดาษ) จากนั้นให้เรา Scan ใบสั่งซื้อที่เราเซ็นชื่อลงไปแล้วส่งเมลกลับ หรือส่ง Fax กลับไปทาง Dell Thailand ซึ่งจะมีเบอร์แจ้งไว้ใน Email ของใบเสนอสั่งซื้อครับ

ได้เวลาเสียเงิน

เมื่อเราจัดการส่งใบเสนอราคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เราโทรกลับไปทาง Dell อีกครั้ง เพื่อติดต่อเรื่องการจ่ายเงิน ซึ่งการจ่ายเงินมีอยู่ 2-3 วิธี แต่ผมจำได้ 2 วิธี คือ บัตรเครดิต(ไม่มีชาร์ต), โอนเงินผ่าน Counter ธนาคารไปยัง Citibank มาเลเซีย ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม

ดังนั้นวิธีที่สะดวกที่สุดในสามโลกคือ บัตรเครดิต โดยเราจะต้องบอกธนาคารที่ออกบัตร, ชนิดของบัตร (Visa, Mastercard, AMEX), ชื่อบนหน้าบัตร, หมายเลขบัตร, เลขหลังบัตร โดยทางเซลส์จะทำการใส่ข้อมูลทั้งหมดเพื่อทำการตัดเงินของเราทันที ถ้าอนุมัติทุกอย่างก็เรียบร้อยครับ โล่งกันไป จบการสนทนากับเซลส์รอรับของประมาณ 7-14 วัน ไม่เกินนี้

เชคสถานะการส่งสินค้า

หลังจากที่เราโล่งจากการรูดบัตรไปแล้ว เราสามารถเชคสถานะได้ โดยการเข้าไปที่เวป http://www.dell.co.th/status ซึ่งเราจะใช้ข้อมูลจากใบเสนอราคา อันได้แก่ เลขใบเสนอราคา (Quotation Number) ,เลขที่ลูกค้า (Customer Code) หรือ เลขสั่งซื้อสินค้า (Order Number) มากรอกลงในเวปครับ จริงๆ แล้วเราสามารถใช้ข้อมูลนอกจากนี้ก็ได้ แต่แค่ 3 อย่างนี้ก็เหลือกินเหลือใช้แล้วครับ ^^

ถึงเวลารับของเย้ๆ

ด้วย Service ของ Dell เค้าจะมาส่งของให้เราถึงบ้านเราเลย โดยที่จะมีการโทรมาแจ้งให้เราทราบก่อนวันส่ง 1 วันว่าเราสะดวกให้ไปส่งในวันรุ่งขึ้นหรือไม่ ถ้ายังเราก็สามารถขอเลื่อนได้ แต่สำหรับผม ผมบอกว่าส่งได้เลย อิอิ

ในวันที่ส่งของ ทางบริษัทที่ขนของมาส่งจะโทรมาหาเราอีกครั้งเพื่อบอกว่าตอนนี้กำลังจะไปถึงที่บ้านเราแล้ว ถ้าใครอยู่บ้านอยู่แล้ว ก็ทำหน้านวลรอรับของเลย ส่วนถ้ามีใครรับแทน เราก็บอกได้ว่า คนที่จะรับแทนชื่ออะไร

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับในการสั่งของจาก Dell…

สำหรับจอของผม ตั้งแต่เริ่มโทร จนถึงของมาถึงมือผม รวมระยะเวลา 7 วัน(รวมเสาร์-อาทิตย์ด้วย)พอดี ส่วนถ้า Laptop หรืออย่างอื่น น่าจะใช้ระยะเวลาเท่าๆ กัน ยกเว้นถ้าเราสั่งอะไรเพิ่มเติม อาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติมแต่คิดว่าไม่น่าเกิน 14 วัน(ทำการ)ครับ

สาเหตุที่ต้องใช้เวลา 7-14 วัน เพราะว่าของนั้นถูกส่งมาจากมาเลเซียทั้งหมดครับ

หวังว่าที่ผมเล่ามาน่าจะช่วยให้เข้าใจและมั่นใจสำหรับคนที่อยากจะสั่งของจาก Dell นะครับ ^_^

Comments

  1. เล่าได้ละเอียดจริงๆ

    ขอเพิ่มนิดนึงครับ จอ Dell เป็นสุดยอดของจอจริงๆ ครับ หากคุณหรือใครอยู่ในวงการตากล้องด้วยแล้ว ติดต่อที่ Dell ดังแจ้งได้เลยครับ

    เพราะผมก็ซื้อมาแล้วเหมือนกัน

  2. ผมเองไม่กล้าบอกว่ามันเจ๋งไม่เจ๋ง
    แต่คนที่สั่งๆ กันย่อมรู้และศึกษากันมาเป็นอย่างดีแล้วครับ

    ผมเองก็ happy สุดๆ และคันมืออยากจะถอยอีกจอ เอามาทำเป็น eyefinity ซะเลย 😀

  3. ขอบคุณมากครับ
    รายละเอียดดีมากๆ เลยครับ

  4. แหม่ๆๆๆๆๆๆ…อันที่จริงแล้ว เดลล์ เค้าก็ดีมานานแล้ว แต่เพิ่งมาบุกตลาดอย่างหนักเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี่เอง…เค้าดีจริง…
    แต่เพิ่มเติมนิดส์นึงนะจ๊ะ….ที่บอกว่า การจ่ายเงินสั่งสินค้านั้น ทำได้อยุ่..
    1. ตัดบัตรเครดิต…สะดวกสุด ๆ จิง ๆ
    2. นำเงินสดไปเข้าธนาคาร Citibank ที่แยกอโศก จ้า…แล้วนำใบ Pay In ส่งให้กับเซลล์ที่ติดต่อพร้อม Quotatio
    3. โอนเงินเข้าบัญชีเดลล์โดยตรง..แต่ต้องระบุด้วย่า โอนแบบ Bath Net นะจ๊ะ..และต้องเสียค่าธรรมเนียประมาณ 250 บาท เพิ่มจากราคาสั่งสินค้า
    4. ซื้อ Cashier Cheque แล้วโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่เดลล์ฯ ส่งคนเข้าไปรับ (ถ้าเป็นต่างจังหวัด ส่ง EMS เข้ามาได้จ้า)
    เรื่องส่งของ เค้าส่งให้ถึงที่จริง ๆ แจ่มมากมาย….เย้ยยยยยยยยยยยยยย

  5. จริงเหรอครับ ผมว่า Dell เพิ่งจะเข้ามาบุกตลาด Consumer เมื่อ 3 ปีที่แล้วเองนะครับ

    ส่วนวิธีจ่ายเงินที่เหลือ ขอบคุณด้วยครับที่มาบอก แต่สุดท้าย บัตรเครดิตก็สะดวกที่สุดแล้ว

  6. ขอบคุณครับ รายละเอียดครบดีครับ
    เผื่อใครอยากสั่ง อ่านตรงนี้สั่งได้เลย ครบหมดทุกขั้นตอน

    ใครจะซื้อจอ แต่ขี้เกียจทำขั้นตอนต่างๆเอง
    ลองเข้าไปดูใน เวปนี้ดูครับ
    http://www.tontkub.com
    http://www.dell2u.com
    ถูกกว่า+ง่ายกว่า+ได้ของเร็วกว่าสั่งของกันเองครับ

    ที่ว่าหลังๆ DELL มาทำตลาด Consumer ผมว่ากลุ่มนี้ก็ยังไม่ใช่เป้าหมายของ DELL อยู่ดีครับ
    แต่ว่ามีตัวแทนที่สั่งของจาก DELL มาทำตลาดเยอะขึ้น
    และช่วง 2 ปีหลังมี dealer ใหญ่(com7)มาทำตลาด notebook dell
    ทำให้รู้จักในวงกว้างขึ้น และซื้อง่ายขึ้นเยอะ

  7. ขอแชร์หน่อยครับ
    อยากจะบอกว่า มันไม่ได้ดีอย่างที่คุณบอกหรอกครับ ผมใช้บริการ Dell มา 3-4 ปี เรียกได้ว่ารู้จัก Dell Thailand เป็นอย่างดี
    อย่างแรกเลยคือ การติดต่อ Sales ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขียนมาหรอกครับ สั่งซื้อแต่ละครั้งแทบจะต้องง้อกันเลย ขอใบเสนอราคาแต่ละครั้งกว่าจะได้ อย่างน้อยก็ 3-5 วันนับจากวันที่ Sales รับเรื่อง (ถ้าคุณโชคดีเจอ Sales ที่ดีนะ) และนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่ มีเว็บที่ทำให้คนเข้าใจผิดๆว่า เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเค้ามีสายสัมพันธ์กับ Sales ที่ดีกว่าเราๆ ที่เป็นรายย่อย จึงใช้จุดนี้มาเป็นตัวกลางในการสั่งซื้อน่ะ ซึ่งทาง Dell ก็ไม่ได้เห็นดำเนินการอะไรกับเว็บเหล่านี้ ได้แต่เพียงบอกว่า มีเว็บลักษณะนี้เยอะ แต่ผมเห็นบางเว็บที่ค่อนข้างดัง ก็เปิดมาเป็นปี
    ซึ่งจริงๆแล้ว Dell ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาหรอกครับ เพราะตราบได้ที่เว็บเหล่านี้ขายได้ สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องมาซื้อจาก Dell อยู่ดี

    พูดง่ายๆว่า ที่เว็บเหล่านี้ยังอยู่ได้ก็เพราะ ผู้ซื้อเบื่อกับความยุ่งยากในการสั่งซื้อจาก Dell โดยตรง จึงยอมที่จะเสียเงินเพิ่มอีกหน่อยแลกกับความสบายใจน่ะนะ

    อย่างที่สอง ไว้หากมีคนอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ผมจะมาบอกเล่าให้ฟังอีกทีนะ

  8. เห็นด้วยกับ comment ด้านล่างบอกว่าจะให้ sale ติดต่อกลับ แล้วก็หายต๋อมไปเลย
    สุดท้ายก็ซื้อยี่ห้ออื่นซะเลย….หยิ่งนักซื้อยี่ห้ออื่นก็ได้ฟระ

  9. ตอนนี้ Catalog ไม่มีแสดงบนเว็บไซต์แล้วนะครับ ต้องโทรติดต่อถามราคากันเอาเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.