ขึ้นไปเชียงใหม่ทั้งทีก็ต้องไปให้คุ้ม! แน่นอนว่าการไปเชียงใหม่ของแต่ละคนย่อมมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันไป ส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวในเมือง กินอาหารพื้นเมือง ขึ้นดอยเก็บความเย็นของอากาศ และอื่นๆ แต่สำหรับผม ช่วงปีสองปีหลังนี่ไปบ่อยมาก จนน้องๆ ที่รู้จักถามว่า “ถามจริง พี่มีแฟนที่เชียงใหม่เหรอ” ผมก็ได้แค่ขำไป เพราะคำตอบจริงๆ มีแค่สองอย่างคือ ไปวิ่ง กับ ไปตามไอดอล CGM48 ครับ! (บิดตัวเขิน 48 องศา)
การไปแต่ละครั้งของผมจะไปอย่างต่ำ 3 วัน 2 คืน ดังนั้นก็จะมีการขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย เพราะต้องเอารองเท้าวิ่งคู่เล็กๆ ไปด้วย แค่นี้ก็กินพื้นที่กระเป๋าไปแล้วครึ่งนึง การจัดการสัมภาระของผมเลยเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องจัดการในวันที่เดินทางมาถึง และวันที่กลับ
ล่าสุดที่ผมเพิ่งกลับมา (มีวิ่ง CMU Marathon วันที่ 13 พ.ย. 2022) รอบนี้ผมจองตั๋วขาไปช่วงบ่ายและกลับวันอังคารช่วง 3 ทุ่ม ซึ่งก่อนเดินทางผมพยายามหา Solution ในการจัดการกระเป๋าในวันกลับ เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่าโรงแรมจะให้ Check Out ตอนเที่ยง ซึ่งจริงๆ แล้วทางเลือกแรกเลยคือผมฝากกระเป๋ากับโรงแรมได้จนถึงก่อนจะไปสนามบิน
แต่ผมก็มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเข้ามาที่ทำให้ต้องหาทางจัดการกระเป๋า
- ผมต้องคืนมอเตอร์ไซค์ที่เช่าเอาไว้ช่วง 4 โมงเย็นที่โรงแรมแถวๆ นิมมาน
- ผมจะไปดู Digital Live On Tour ของ CGM48 ในตอน 5 โมงเย็นที่ประตูท่าแพ
- ผมต้องถึงสนามบินไม่เกินทุ่มครึ่งเพราะเครื่องออกตอน 3 ทุ่ม
มันเลยเป็นสาเหตุว่าผมจะทำอย่างไรในการจัดการกระเป๋าโดยที่ไม่ต้องตุเลงๆ กระเป๋าไปทุกที่ เพราะมันก็หนักอยู่ และเริ่มหาวิธีฝากกระเป๋า ซึ่งก็เจอหลายรูปแบบมาก
อย่างแรกที่ผมหาเลยคือ ที่สนามบินมีที่รับฝากไหม ซึ่งมีครับ สะดวกมาก เพราะเราก็ตัวปลิวแล้วรอมารับกระเป๋าที่สนามบินตอนจะบินกลับเลย โดยราคาอยู่ที่ 200 บาทต่อวัน จะกี่ชั่วโมงก็ 200 บาท จากข้อมูลนี้ผมเลยตัดสินใจตอนแรกเลยว่า ผมจะเลือกวิธีนี้แหละ ดูข้อมูลได้ที่นี่
พอถึงช่วงวันที่มาถึงเชียงใหม่ ผมก็เลยพยายามหาข้อมูลทางเลือกเพิ่ม แล้วก็เจอที่ One Nimman โดยบังเอิญ (บังเอิญนี่ใครนะ) มีล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าอยู่ติดกับร้าน Melt Me แต่ว่าต้องติดต่อกับทางร้านว่าจะใช้งาน (ผมไม่แน่ใจว่ามีค่าใช้จ่ายไหม แต่ที่อ่านจากความเข้าใจของผมเองคือไม่เสียเงินนะครับ เพราะมีป้ายแปะไว้)
แต่ที่ผมเลือกคือไปฝากที่ Central Airport Chiangmai เพราะผมลองหาดูแล้วก็พบว่ามีร้านรับฝากโดยเฉพาะเลยในห้าง และราคาก็ไม่แพงแบบไม่ถึงร้อยบาท แถมยังไม่ไกลจากสนามบินด้วย ซึ่งตรงกับสเปคที่อยากได้เลย
ร้านนี้ชื่อว่า Baggage Vault (ผมไม่ได้ค่าโฆษณาหรือได้การฝากฟรีจากการแนะนำนี้เลย หาเจอเอง ชอบเอง อยากแนะนำเอง โอเคนะ!)
อันที่ผมใช้เป็นการฝากกระเป๋าชั่วคราว ก็จะเสียตามเกณฑ์กำหนดของทางร้านไป และนอกจากนั้นก็จะมีฝากแบบข้ามวันก็จะเป็นอีกราคานึง หรือแม้กระทั่งถ้าไปกับเพื่อนๆ แล้วฝากพร้อมกันเยอะๆ ก็มีราคาพิเศษด้วยอะไรแบบนี้
และสำหรับคนที่อยากเดินตัวปลิว ก็มีบริการส่งกระเป๋าไปสนามบินด้วย ซึ่งน่าจะมีขั้นต่ำของจำนวนกระเป๋าในการบริการอยู่ เหมาะกับคนที่ไม่อยากลากกระเป๋าจากเซ็นทรัลไปสนามบิน (ซึ่งถ้าเป๋าใหญ่ๆ ก็ไม่อยากให้ลากเท่าไหร่ครับ ทางไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่
ส่วนตำแหน่งร้าน หาง่ายมาก เพราะอยู่ชั้นล่างสุดที่มีกาดหลวง หรือ Food Court ขนาดใหญ่ในห้าง เดินไปจนสุดหาประตู 3 ก็จะเห็นร้านอยู่ด้านขวามือครับ ในรูปจะเห็นมีบันไดอยู่
ตอนผมไปฝากก็แค่แจ้งว่าเราจะฝากกี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ร้านก็จะดูขนาดกระเป๋าพร้อมแจ้งราคาค่าใช้จ่าย และเราก็จ่ายพร้อมกับเก็บใบที่เขาส่งมาให้ไว้เพื่อใช้รับกระเป๋ากลับ ดังนั้นห้ามทำใบนี้หายเด็ดขาด
ใครสนใจก็ลองใช้บริการกันดูครับ ผมเองใช้แล้วประทับใจ รู้สึกว่าน่าจะสะดวกกับโอตะที่มาหาน้องนานา เอ้ย คนที่มาเที่ยวเชียงใหม่
ร้าน Baggage Vault ชั้น G ประตู 3 facebook.com/BaggageVaultChiangmai
ย้ำอีกที บทความนี้ไม่ใช่ Advertorial แค่อยากจะแนะนำร้านที่ไปใช้บริการมาจริงและอยากบอกต่อ แค่นั้นเลย!
พี่แม้งโคตรผจญภัย