แม้ผมจะถอยหลังจาก 48 เมืองไทยด้วยการบริหารและการไม่คิดถึงคนที่เป็นแฟนคลับเลยแม้แต่น้อย แต่ยังมีสิ่งนึงที่ผมยังอยากทำและอยากดูด้วยตาตัวเอง เพราะนี่คือต้นฉบับก่อนที่จะมี 48 ในไทย สิ่งนั้นก็คือ การมาชมการแสดง ณ เธียเตอร์ของ AKB48 ที่ประเทศญี่ปุ่น บล็อกนี้ผมจะเล่าทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเล่าได้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนที่อยากมาดูแบบผม กับวิธีการหาข้อมูลทุกอย่าง เพื่อ จอง – ลุ้น – ชม และโดนตกในโชว์จนต้องกดโอชิ (น่ารักชะมัดโว้ยยย)
อันที่จริงผมเคยมีความพยายามในการมาดูเธียเตอร์แล้วในช่วงก่อนโควิด แต่จังหวะวันเวลามันไม่ได้ ซึ่งวันที่ผมมาไม่มีการแสดง ก็เลยไม่ได้จองแล้วก็ไม่ได้ดูสักที ส่วนรอบนี้ผมตั้งใจมาดูคอนเสิร์ต Perfume เป็นหลักช่วงวันที่ 22 กันยายน ก็เลยมีความลุ้นนิดนึงว่าจะมีการแสดงของ AKB48 ด้วยไหมในช่วงนั้น
สำหรับการแสดงในเธียเตอร์ จะมีการประกาศล่วงหน้าบนหน้าเว็บไซต์ประมาณ 4 สัปดาห์ (ตามที่ผมเข้าใจ) บอกรายละเอียดว่ามีสเตจอะไรบ้าง เป็นทีมไหนที่ขึ้นโชว์ แต่ละโชว์เมมเบอร์มีใครบ้าง โดยสามารถเช็กได้จากที่หน้าเว็บนี้ >> https://www.akb48.co.jp/theater โดยจะมีข้อมูลอัปเดตเรื่อยๆ ตามกำหนด
ด้วยความที่ประกาศ 4 สัปดาห์ล่วงหน้า ดังนั้นต่อให้เรามาญี่ปุ่นและอยากดูเธียเตอร์ AKB48 ก็ต้องมาลุ้นปฎิทินอีกว่าจะมีโชว์ในวันที่เราอยู่ญี่ปุ่นด้วยไหม แล้วโชว์ที่เมืองไหนอีก ลุ้นหลาย ลุ้นคัก!
ส่วนผม มีช่วงเวลาที่ดูได้อยู่ 2 วัน คือ วันอาทิตย์ที่ 21 และ วันอังคาร 23 กันยายน แล้วก็พบว่า 21 ชื่อสเตจว่า “Now in Love” ส่วน 23 มีแสดงสเตจ RESET ซึ่งเป็นสเตจเดียวกับที่ผมเคยดูของ CGM48!
จริงๆ มันอยู่ในการเลือกระหว่างสเตจที่ไม่เคยดูเลย กับสเตจที่เราเคยดูแล้ว (แม้จะดูไม่กี่รอบ) และรวมถึงปัจจัยเกี่ยวกับวัน เพราะ 21 ตรงกับวันอาทิตย์ ส่วน 23 ตรงกับวันอังคาร เลยคิดว่า วันที่มีโอกาส Win กว่านั่นคือ 23 ก็เลยเลือกวันนี้ไป
แต่ก็มารู้ทีหลังว่ามันคือวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น (วันศารทวิษุวัต Autumnal Equinox Day ลองอ่านที่นี่นะครับ) …นั่นแหละครับชิบหายกว่าเดิม 555
โอเค เริ่มจอง!
การเปิดให้จอง จะให้จองล่วงหน้า 2 สัปดาห์ของการแสดง โดยเช้าไปจองได้เลยที่หน้าเว็บด้านบน จากนั้นเลือกรอบที่ต้องการแล้วกดที่ปุ่มแรกด้านซ้าย “チケットに応募する” หรือ Apply for Ticket เว็บจะพาเราไปที่หน้าเว็บ AKB48 Ticket Center >> https://akb48.zaiko.io/
ผมลืมบอกไปว่า การจองไม่ได้การันตีว่าจะได้นะครับ เพราะนี่คือการ “สุ่ม” แบบ “Lottery”
zaiko เป็น platform ซื้อขายตั๋วออนไลน์ ประมาณ TTM, TicketMelon, The Concert บ้านเราครับ โดยเราต้องเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกเว็บก่อน ขั้นตอนไม่ยากเพราะเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ สามารถกดไปสมัครได้เลยที่นี่ https://zaiko.io/login
ในเว็บก็จะมีตารางแสดงให้ดูอีกรอบ จากนั้นเราก็เลือกรอบ กรอกรายละเอียด และเลือกประเภทของบัตร ซึ่งผมเลือกเป็น General อันอื่นๆ ผมไม่มั่นใจ แต่อันสุดท้ายคือราคาถูกสุดคือ ดูถ่ายทอดที่หน้าเธียเตอร์และเข้า session Hi-Bye ตอนจบ
ราคาที่ผมจ่ายคือ 3800 เยน + ค่าธรรมเนียมการจัดการ 114 เยน
ในการกรอกมีต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อที่จะให้เวลาที่เราได้ ก็จะถูกตัดบัตรทันทีด้วยครับ ถ้าทุกอย่างโอเคก็กด Apply for selection จากนั้นรอผลครับ
เอ้า…ได้ดูเฉย
ผมกดไปวันที่ 9 แล้วมีแจ้งกลับมาว่า ผลว่าจะได้ดูหรือไม่ได้ จะแจ้งวันที่ 20 ตอน 2 ทุ่มญี่ปุ่น ซึ่งผมบินถึงวันนั้น ดังนั้นก็เลยต้องขนของวัดใจด้วยการเอา SSR กับแท่งไฟติดตัวเผื่อไว้พาบินไปด้วย จะได้ไม่ได้ว่ากันอีกที
พอวันที่ 20 มีเมลเด้งมา 2 ทุ่มเป๊ะ ไม่เลทไปมาเหมือน…….. ปรากฎว่า ได้หว่ะ งงปนดีใจ ก็เลยอาจเมลแบบสแกนแบบเร็วๆ
และไม่ใช่แค่เมลเดียว มี 3 เมลส่งมาบอกรายละเอียด โดยแจ้งว่าจะเปิดให้เข้าพื้นที่ 2 ชั่วโมงก่อนเริ่มโชว์ และให้มาถึงก่อน 30 นาทีเพื่อจะมีจับสลาก (ผมก็งงว่าจับอะไรอีก ก็ได้แล้ว ก็ต้องบอกเลขที่นั่งแล้ว แต่นี่ยังไม่มีบอกอะไร)
อันนี้เนื้อหาเมลที่ translate มานะครับ ผมตัดมาบางท่อน มีหลายอย่างที่ผมเริ่มเอะใจ เราได้แล้วทำไมยังมี lottery อีกนะ
[Information on the day]
The lobby opens two hours before showtime.
The lottery to determine the order of admission to the theater will begin 30 minutes before showtime
Please note that depending on the order of the lottery entry, you may be required to stand (excluding the Family Couples and Female Elementary and Junior High School Students). For customers who are unable to stand for long periods of time due to health reasons, or customers with children, we can . If necessary, please speak to a staff member in the lobby before the lottery entry begins
มันมีคำว่า stand ผมก็เลยโอเคทดๆ ไว้
และมีอีกเมล เป็น Optional ที่เปิดให้คนที่เข้าชมเสนอธีมสำหรับแนะนำตัวเมมเบอร์ที่เช้ารวมแสดงด้วย โดยจะมีเมลส่งมาต่างหากให้เราเสนอว่าอยากได้ธีมอะไรตอนพูด โดยเมลนี้จะได้รับเฉพาะคนที่เป็น winner หรือคนที่ได้เข้าไปชมเธียเตอร์เท่านั้น (แต่เท่าที่ดู มันเป็น google form ที่ใช้อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วแต่ขออนุญาตไม่แชร์ลิงก์นะครับ)
วันโชว์ รับ QR ยืนงง แล้วลุ้น ๆๆ
ย้อนก่อนจะถึงวันแสดง จะมีอีเมลส่งมาเตือนว่า พรุ่งนี้มีต้องไปดูการแสดงนะ แล้วก็สามารถกดเข้าไปดูที่หน้า Zaiko ได้จากเมลนี้เหมือนกัน
แล้วพอเวลาเข้ามาแล้ว จะยังไม่มี QR ถูกสร้างขึ้นมา แต่จะมีการบอกว่าจะเห็น QR Code ก่อนเวลาโชว์ประมาณ 3 ชั่วโมง (11:30am) ในลิงก์ที่ซื้อบัตร ซึ่งผมก็งงว่าทำไมไม่ gen แล้วส่งมาเลย พอถึงเวลา ก็ได้รู้ว่านอกจาก QR Code ที่สร้างขึ้นมาแล้ว จะมีเลขปริศนามาให้ ใช้ชื่อว่า Reservation / Seat Number ซึ่งผมได้เลข 96
ผมก็ เห้ย ถ้าไล่ตามเลขแบบนี้ก็ได้นั่งดิ ซึ่งในเว็บจะมีผังให้ครับว่ามี seat plan ยังไง ไม่ถึง 100 ได้นั่งแน่นอน (ลูบปาก)
จะนับยังไงเราก็ได้นั่งเพราะเลขมันไม่ถึง 100 แต่พอมาสังเกตุ seat plan มันก็มีบริเวณที่ไม่มีที่นั่ง ที่เป็นด้านหลังที่เป็น A B C D E นั่นคือ “ที่ยืน” ครับ ใช่ครับ เพื่อยืนชมการแสดง ซึ่งผมก็งงว่ามันมีบัตรยืนด้วยเหรอวะ เราจ่ายไปก็ไม่มีบอกอะไร ก็เป็นสิ่งที่ตัวเองสงสัยและเก็บไว้
ประมาณบ่ายโมง ผมไปถึงที่หน้าเธียเตอร์ กะว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการถ่ายด้านใน ก็ค่อยๆ ขึ้นบันไดเลื่อนไปจนกระทั่งถึงชั้น 7 ก่อนจะถึง ทางสตาฟก็ขอดูตั๋วการแสดง เราก็เปิดเมลให้ดู เขาก็เลยให้ขึ้นไป ผมเลยเข้าใจว่า ถ้าใครไม่มีบัตรหรือไม่ใช่สตาฟ ก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปดูด้านบนแม้จะไม่ใช่วันเวลาแสดงก็ตาม
พอผมถึงด้านบน คนที่มารอชมเยอะแบบเยอะะะะะ เพราะด้วยคนที่มีสิทธิ์มาดู 250 คน กับพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ก็เลยแพ็กไปโดยปริยาย แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้เดิน ให้หายใจอยู่แบบสบายตัว
และด้วยความญี่ปุ่นและแทบไม่มีภาษาอังกฤษใดๆ เลยให้อ่านนอกจากคำว่า AKB48 Theatre ก็เลยสังเกตว่าเขาทำอะไรกันบ้าง ก็มาเจอกับกองตะกร้าขนาดเล็ก ที่ผมเห็นคนที่มาดูหยิบกันไปคนละอัน แล้วก็เอาของส่วนตัวใส่ ผมก็เลยเดาแบบง่ายๆ ว่าน่าจะเอาของมาใส่ เพื่อตรวจก่อนเข้าไปในเธียเตอร์
นอกจากนั้น ก็จะมีบริการฝากของอีก 2 แบบ อย่างแรกคือแบบชิ้นใหญ่ สามารถฝากกับทางสตาฟได้ มีค่าบริการ 600 เยน อีกอย่างคือมีตู้ locker (ไม่ room boy) อันนี้เสียค่าบริการ 300 เยน มีแต่เสียกับเสีย เสียทุกทางนอกจากมาแบบตัวเปล่าๆ
อันนี้จะเป็นป้ายบอกข้างๆ ที่หยิบตะกร้า บอกว่าอะไรสามารถเอาเข้าได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อันนี้ผมแปลจากป้ายและจากที่ผมเอาเข้านะครับ
เอาเข้าได้ที่ต้องใส่ตะกร้า
- กระเป๋าเงิน
- โทรศัพท์มือถือ, นาฬิกา (รวมถึง smartwatch)
- บัตรที่ไว้พิสูจน์ตัวเอง หรือถ้าเป็นผมจะเป็นเล่ม Passport ที่ยืนยันตัวเอง
- แท่งไฟ หรือของต่างๆ สีมีแสงที่เป็นสินค้าจาก Official (ผมเอาแท่งไฟ magical chuchuchu กับแท่งไฟจากกล่องเขียว CGM48 มา)
- พัดรูปหน้าเมมเบอร์ (อันนี้เห็นเยอะมาก)
- อันนี้ผมเอาเข้าเอง SSR ของไข่หวานและปิ๊ง ก็สามารถเข้าไปได้ครับ
ของที่ห้ามเอาเข้า เช่น
- กระเป๋าใบใหญ่ เช่น เป้
- มีด, อาวุธ
- ร่ม
- กล้องวิดีโอ กล้องใหญ่ทั้งหลายที่จะไว้บันทึกรูป
ส่วนนี้จะเป็นบริเวณ locker ซึ่งถ้าใครไม่มีเหรียญที่จะใช้กับ locker ก็สามารถไปแลกกับ Staff บริเวณแจกตะกร้าได้เลย ส่วนรูปด้านล่างเป็นบริเวณ locker เหมือนจะลึกแต่กระจกหลอก มีแค่แถวละ 6 สูง 5 ดังนั้นก็จะมี 30×2 ต่อซอย โดยจะมีอยู่ 3.5 – 4 ซอยได้ ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนคนที่มาดูและรองรับ
ปล.ผมเกือบเดินชนกระจก ไม่งั้นหน้าแหกแน่ๆ
แล้วนี่คือตะกร้าใส่ของ ผมก็ใส่ประมาณนี้ครับ แน่นอนว่าต้องมีโป๊ยเซียน
พอจัดแจงเสร็จเรื่องของ ผมก็เห็นสตาฟเริ่มตั้งป้ายเป็นเลข ภาพอาจจะไม่ชัดนะครับเนื่องจากผม crop ไม่ให้เห็นคน ก็เลยคิดว่า สงสัยเขาตั้งแถวละ แล้วผมก็หาแถวตัวเองไม่เจอ จนกระทั่งไปเจอว่า อ่อ อยู่หน้าทางเข้าเลย 555 ก็เลยถือตะกร้ากระเตงๆ ไปต่อคิว ซึ่งผมไม่รู้ว่าต้องต่อแบบเรียงหมายเลขนะ เลยไปต่อท้ายกับคุณอาที่มีอายุนิดนึงจากนั้นก็ยืนรอครับ
สุ่มของสุ่มก่อนเดินเข้า
พอผมยืนได้สักพักก็ถึงเวลา 13:30 ก็คิดว่าเอ้อ ค่อยๆ เดินตามเลขเพราะว่าทุกคนก็ต่อคิวตามลำดับตามแถวอยู่แล้ว ปรากฎว่าไม่ใช่! ผมเริ่มเห็นพิธีกรรมเพิ่มเติม นั่นคือ การจับสลากครับ นี่เองที่เขาบอกในเมลว่าจะมี Lottery ตรงนี้ ผมยืนอึ้งและก็ขำ มันคือสุ่มจังโว้ยยย 555
การสุ่มใช้ระบบ manual ครับ ด้านหน้าจะมีบอร์ดอยู่เหมือนที่เวลาเห็นในรายการข่าวญี่ปุ่นแล้วมีเปิดแผ่นป้ายค่อยๆ บอกข้อมูล รูปด้านบนคือด้านขวาล่างครับที่อยู่ลิบๆ แต่ตรงที่ผมยืนต่อคิวนี้ผมไม่กล้าถ่ายรูปแล้ว กลัวเป็นคนไทยที่โดนหิ้วออกทั้งที่ยังไม่ได้เข้า แต่ที่แน่ๆ จากที่ดูมันเป็นการจับสลากเพื่อลุ้นว่า กลุ่มไหนจะได้เข้าไปก่อน
การเรียงกลุ่ม ง่ายมากครับ จะมี 25 กลุ่ม 1-9, 10-19 ไปเรื่อยๆ จนถึง 241-250 สตาฟก็จะทำการจับ กลุ่มไหนถูกจับขึ้นมาก็จะได้เข้าไป เรียงตามเบอร์ที่ได้ นั่นหมายถึงว่า ไม่ใช่คนที่ได้เลข 1-9 จะได้เข้าก่อน อยู่ที่ดวงของสตาฟที่จะจับอีก
กว่ากลุ่มผมจะโดนจับขึ้นมา ก็ผ่านไปเกินครึ่ง สักประมาณ 15-16 ผมก็ยังลุ้นๆ ว่าก็น่าจะยังได้นั่งอยู่นะ ก็เดินเข้าไป ผมก็ยื่นตะกร้าให้สตาฟเพื่อทำการตรวจสอบของและเช็ก passport ผม และผมก็เดินเข้ามาให้สตาฟอีกคนสแกนตัว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องการสแกน จะมีแค่ตอนเช็กบัตรผมที่ใช้เวลานานกว่าปกตินิดนึง ซึ่งผมเข้าใจเองว่า ผมน่าจะเป็นคนไทยคนเดียวในรอบนี้(ที่ไปขอดูการแสดงในรอบนี้)
หลังจากผ่านด่านทั้งหมดก็เข้ามาเห็น ตรงนี้ผมเห็นเวทีแล้วโอ้โห แต่ไม่นานผมก็ต้องรีบหาที่ สรุปคือ ที่นั่งเต็มหมดแล้ว…
นั่นคือ ผมต้องรีบหาที่ตำแหน่งที่ว่างเพื่อ “ยืนชม” ซึ่งจะมี marker กำหนดพื้นที่ในการยืนประมาณ 30×40 cm ไม่เกินนี้ ตำแหน่งที่ผมยืนตรงกลางเยื้องไปทางขวาของเวที จะเห็นเสาขวาในตำนาน ผมก็ยืนโดยวิสัยทัศน์ที่ผมเห็นก็ไม่ได้ถูกบังมากนัก
และนี่คือสาเหตุที่เขาส่งเมลบอกว่า อาจจะมีการยืน ถ้ายืนไม่ไหวให้แจ้งสตาฟก่อน lottery…
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มี MC ประกาศกฎเหมือนที่เคยได้ยินในไทย แล้วก็เริ่มทำการแสดงจนจบโชว์ (รายละเอียด ความรู้สึกเดี๋ยวมีเป็นคลิปที่อัดจากที่ญี่ปุ่นนะครับ)
อ้อ ตอนช่วง MC1 มีถ่ายรูปรวมด้วย ซึ่งผมก็คิดว่า เห่ย แจกแน่ๆ เหมือนที่ไทย ที่เขาเพิ่มราคาบัตรไง ของที่นี่ราคาแพงอยู่แล้ว ต้องให้เลยแน่ๆ
hi-bye จบผมก็เดินมาข้างนอกเห็นคนถือรูป ผมเริ่มหาว่า เขาไปรับจากตรงไหน เดินตามหลายๆ คนไป จนกระทั่งมันคือที่ๆ ผมรับตะกร้า แล้วก็เห็นป้ายราคา 400 1000 1500 รูปที่ผมซื้อมาคือ 400 เยน ส่วนราคาที่แพงกว่า ก็จะเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าครับ
จากนั้นผมก็มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน้าเธียเตอร์ แล้วก็อยู่ต่ออีกสักพักก็ลงบันไดเลื่อนและไปเที่ยวที่อื่นต่อ
สรุปค่าเสียหายทั้งหมดถ้าจะมาชม
- ค่าตั๋ว 3800+ 114 เยน
- ค่าฝากของ locker 300 หรือฝากกับสตาฟ (ใช้คำว่า cloak หรือเอาผ้ามาคลุม) 600 เยน
- ค่ารูปที่ระลึก แล้วแต่ราคา 400, 1000, 1500 เยน
- ค่าบนบานศาลกล่าว ถ้าอยากมาดู แล้วแต่ศรัทธา
หวังว่าข้อมูลที่ผมเขียนมา น่าจะเป็นประโยชน์และช่วยในการเตรียมตัวและตัดสินใจในการมาชมการแสดงที่นี่นะครับ ถ้าใครชอบ 48 ผมว่าหาโอกาสและพกดวงมาให้ได้สักครั้งนึงครับ
มี vlog ให้ดูด้วยนะครับ เสียงช่วงหลังจะงัวเงียหน่อยเพราะง่วงจัด
