รักษาฐานแฟนคลับ คือการขยายฐานแฟนคลับ แบบฉบับ HatoBito

ปกติในหมวดไอดอลที่ผมเขียนจะเป็นการตามรอยสถานที่ต่างๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นการขึ้นไปเชียงใหม่แทบทั้งนั้น แต่บล็อกนี้ขอพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับอีกวงที่ผมชอบวิธีการดูแลแฟนคลับและผมเองก็ได้เห็นการเติบโตของฐานแฟนคลับวงนี้ นั่นคือ HatoBito

ตอนแรกเลยตั้งใจว่าอยากจะเขียนเป็นโพสต์ใน Page มาลองคิดอีกทีน่าจะเล่ายาวประมาณนึงแน่ๆ และไม่น่าเหมาะกับการอ่านใน Page เลยขอมาเขียนในนี้แล้วกันครับ

HatoBito เป็นวงที่ผมตามมาตั้งแต่ปี 2021 ตั้งแต่ช่วงโควิดช่วงแรกๆ โดยเป็นการแนะนำจากพี่ท่านหนึ่งที่ตาม 48 มา แถมมีเมนเป็นเมมเดียวกันอีกต่างหาก (คน Type เดียวกันมักชนกันแทบทุกเรื่อง) ด้วยคำโปรยเพื่อแนะนำที่ว่า วงนี้น่าสนใจ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่โดยเฉพาะการวางตัว ทำให้การพูดคุยจะง่าย แต่ก็ยังคงอยู่ในกรอบและความห่างตามระเบียบของวงตามปกตินะ ผมก็เลยลองๆ ติดตามมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าตัดเรื่องเมมเบอร์ของวงไปซึ่งผมก็มีตามอยู่แล้ว สิ่งที่ผมรู้สึกติดมากกว่าคือการบริหารจัดการของวง ผมสามารถแบ่งออกมาเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆ

  • การบริหารดูแลเมม อันนี้น่าจะเป็น blackbox หรือสิ่งที่ผมไม่รู้มากที่สุด แต่มันก็สามารถสื่อสารออกมาผ่านเมมเบอร์ในวง นั่นคือคำตอบว่าการบริหารจัดการเมมทำได้ดีแค่ไหน
  • การโปรโมทหรือ PR ต่างๆ มีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้แฟนคลับได้รู้และได้แพลนกันล่วงหน้าว่าจะมีงานอะไรในช่วงเวลาไหน
ตารางงานแบบคร่าวๆ ถ้าอะไรที่ยังดีลกันไม่เสร็จก็จะใส่เป็น booked แบบหลวมๆ ไว้เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
  • การสร้าง Content ในงานหรือวิธีการทำให้แฟนคลับสนุกไปกับการเจอวงในงานต่างๆ รวมไปถึงการปรับให้เข้ากับแต่ละงาน กลืนไปในธีมเดียวกัน เพราะการเจอเมมเบอร์ด้วยความถี่กันบ่อยๆ มันอาจจะไม่มีหัวข้อในการสนทนาหรือไม่มีแรงดึงดูดในการเข้าหาของคนที่อาจจะสนใจ การมีอะไรใหม่ๆ หรือปรับให้อยู่ในสภาวะเดียวกับงาน Event ต่างๆ ที่เข้าร่วม เช่น งาน Thailand Comic Con ก็แต่คอสและมีกิจกรรมให้เมมวาดรูป หรือ งานแข่งเกม ก็จัดให้เมมมาแข่งเกม แบบนี้เป็นต้น

สามก้อนนี้คือสิ่งที่ทำให้ HatoBito มีความน่าสนใจให้กับแฟนคลับ ที่ทั้งตามวงอยู่และเริ่มขยายเพิ่มให้คนที่อาจจะไม่รู้จักสนใจมากขึ้นตามไปด้วย

จากด้านบนที่ผมพูดถึง มันจะมีกุญแจสำคัญที่ทำให้ HatoBito ยังคงรักษาฐานแฟนคลับและขยายแบบค่อยๆ เพิ่มได้อย่างสม่ำเสมอ ผมขอเรียกเป็นสมการง่ายๆ (ง่ายตรงไหน)

LCD = 2E

L – Listen การฟัง รับฟัง

การฟังนี่โคตรสำคัญเลยสำหรับทุกอย่างโดยเฉพาะการทำงานที่มีคนนอกซึ่งเป็นว่าที่ลูกค้า การที่บริษัทมีพื้นฐานในการเป็นเอเยนซี่เลยทำให้การฟังหรือการ Get Requirement จากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งวงก็นำเรื่องนี้มาใช้ได้อย่างดีมากๆ

สิ่งที่เป็นเครื่องหมายการค้าของวงก็คือ ผู้บริหารวงที่ลงมาพูดคุยกับแฟนคลับด้วยตัวเองแทบจะทุกครั้ง เมื่อผู้บริหารมาพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง ไม่ทำให้ตัวเองเหมือนอยู่บนหอคอยงาช้างที่ใครก็เข้าถึงไม่ได้ มันเลยทำให้แฟนคลับหรือแม้กระทั่งทีมงาน เมมเบอร์ กล้าพูดกล้าคุย กล้าเปิดใจ กล้าถึงขนาด Comment

บอกตามตรงว่าบางเรื่องที่ผ่านมาผมก็ไม่ชอบ ไม่ค่อยโอเค อันไหนที่ผมจัดการได้ด้วยตัวเองก็จัดการไป แต่อันไหนที่ผมมองว่าถ้าปรับแล้วมันน่าจะดีไม่ใช่กับแค่ตัวผม แต่ทั้งหมด ผมก็จะ Comment หรือแจ้งไปตรงๆ ให้ทางทีมรับเรื่องและนำไปปรับปรุงหรือใช้ในงานถัดๆ ไป ทั้งหมดทั้งมวลมันคือการติเพื่อก่อ แต่มันจะไปไหนไม่ได้เลยถ้าเขาไม่ฟัง

แต่ถ้าเรื่องเหนือการควบคุมก็จะอยู่ที่การสื่อสาร (ซึ่งจริงๆ มันน่าจะเป็นอีก C คือ Communication) ว่าจะออกมาในแบบไหน แต่ถ้าพื้นฐานการบริหารวงดีประมาณนึงแล้ว แฟนคลับก็พร้อมจะเปิดใจรับฟังเหตุผลที่ผ่านการคัดกรองมาแล้ว

C – Creative, surprise and fast

เป็นวงที่ผมหลุดปากพูดอยู่บ่อยๆ ว่า กิจกรรมนี้คิดได้ไง เจ๋งมาก มันง่าย ลงทุนไม่เยอะแต่ดีมากทั้งวงทั้งแฟนคลับ ทั้งหมดทั้งมวลมันคือความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นจากทีมงานที่มีทั้งคิดกันมาก่อนงานจะเริ่ม หรือแม้กระทั่งคิดแบบด้นสดเลยก็มี

บางอย่างอาจสร้างความหนักใจให้กับเมมบ้างเช่นเรื่องวาดรูปหรือเล่นเกม ฮ่าๆ แต่ถ้ามองมวลรวมแล้วผมโคตรชอบในฐานะที่ตัวเองเสพความ Creative ในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว

ล่าสุดที่ผมประทับใจโคตรๆ คือ วันงานที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งวันนั้นตรงกับวันคอนใหญ่ของหลายๆ วงพอดี ทำให้คนมาดูน้อยกว่าปกติ และมาทราบที่งานว่าวงที่จะต้องมาเทงานกันหมด ทำให้เหลือวงไม่กี่วงที่มาแสดง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ HatoBito พอถึงช่วงที่จะมีการ Stamp (การเอา passport ของวงที่แฟนคลับมีมาให้เมม Stamp และพูดคุยได้ประมาณ 30 วินาที) ด้วยคนที่ไม่เยอะมากทำให้กิจกรรมเสร็จในเวลาอันสั้น ทางทีมงานเลยคิดแผนกันแบบด่วนๆ เพื่อทำให้แฟนคลับไม่เหงาจนเกินไป นั่นคือการคิดเกมเป่ายิ้งชุบ โดยรางวัลคือตุ๊กตาที่มีลายเซ็นของเมมเบอร์ที่มางานวันนั้น ซึ่งตุ๊กตาก็คือการเดินไปซื้อที่ Miniso ที่อยู่ตรงข้ามเวที ทุกอย่างคิดเร็วทำเร็วมากและสนุกมาก เพราะผมอยู่ที่นั่นด้วยแต่ผมไม่ได้ลงไปแข่งนะครับ แค่ดูก็สนุกโคตรๆ แล้ว

นี่คือความ Creative แบบฟ้าแลบที่ยังคงเป็นความประทับใจของผมจนถึงทุกวันนี้

รูปตอนประชุมที่ผมถ่ายได้

D – โดโด้ เอ้ย Do it

สิ่งที่ได้ยินได้ฟังได้คิด มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่ทำมัน ด้วยความที่ผมจะได้เจอวงนี้อยู่เรื่อยๆ มันเลยกลายเป็นว่าเราได้เห็นการ Take Action จากสิ่งที่ได้รับ Feedback มาแทบจะทันทีหรือเห็นครั้งต่อไปแบบจับต้องได้ ไม่ใช่ว่ารับปากไปแต่ไม่ทำ หรือพูดลอยๆ แล้วปล่อยเฉยเมยไป

คราวนี้มาถึงผลลัพธ์ที่ออกมา นั่นคือ 2E

E – Engagement

แน่นอนว่าสิ่งที่ทางทีมบริหารวงทำไปมันคือการสร้าง Engagement หรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างวง/เมมเบอร์และแฟนคลับ ตัวเมมเองก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้วแต่การมีวงที่ช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมหรือสภาพแวดล้อมมันช่วยขับเคลื่อนหรือพาให้แฟนคลับเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ในเชิงจิตวิทยามันก็ยิ่งทำให้วงถูกมองไปในทิศทางบวกมากขึ้นจากการบริหารจัดการที่ดี

E – Expansion

ผลที่ได้จากการบริหารจัดการที่ดี ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม การขยายตัวหรือการได้รับความนิยมที่มากขึ้นคือสิ่งที่ตามมา ถึงแม้วงอาจไม่ได้อยู่ในสเกลที่ใหญ่มากเท่าวงที่กิน marketshare อยู่ในตอนนี้ (ซึ่งก็ค่อยๆ ถอยลงไปทุกที) แต่ในเมื่อทุกอย่างดี มันก็จะเป็น word of mouth หรือปากต่อปากได้ ค่อยๆ กลืนไปแบบช้าๆ


อ่านมาจนถึงย่อหน้านี้คนอ่านอาจจะพึมพำกับตัวเองว่า “ทำไมอวยวงนี้จังวะ” ใช่ครับ ผมอวย 555 แต่เป็นการอวยที่ผมเจอมาด้วยตัวเองถึงแม้จะไม่ได้ตามวงมาตั้งแต่ Day 1 ก็ตาม ที่สำคัญ ไม่ได้ฟังจากคนอื่นแล้วเอามาเล่าแล้วมาแปลงเป็นสูตรเป็นบล็อกนี้ขึ้นมา มันคือสิ่งที่ผมเจอมาด้วยตัวเองจริงๆ

ตัวผมเองมีความเชื่อเรื่องการตั้งหลักทำทุกอย่างในบ้านให้มันดี พอออกสู่ภายนอกมันจะดีด้วยตัวเอง ผ่านการปรับกระบวนท่าต่างๆ ตามสถานการณ์และคอยฟัง Feedback ต่างๆ เพื่อนำไปปรับแก้ แม้ว่าจะไม่สามารถนำเสนอสิ่งที่แฟนคลับต้องการได้แบบ 100% มันจะมีสิ่งที่ทำได้ ทำไม่ได้ ทำได้ไม่หมดด้วยเงื่อนไข แต่ทุกอย่างถ้าพื้นฐานปูมาดีมันจะมี “ความเข้าใจ” เข้าช่วยให้ทุกสิ่งอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่นหรือมีปัญหาน้อยที่สุด


จบบล็อกนี้ด้วยที่มาที่ไปที่ทำให้บล็อกยาวได้ขนาดนี้ เรื่องของเรื่องคือ มีจดหมายฉบับนึงส่งมาหาผม พอเปิดออกมาคือรูปพร้อมลายเซ็นของน้องเมมเบอร์วง พร้อมข้อความสวัสดีปีใหม่แฟนคลับโดยน้องซายน์

ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ผมได้รับโปสการ์ดสวัสดีปีใหม่ จริงๆ มันเรียบง่ายมากเลยกับการส่งโปสการ์ดแบบนี้ (แต่คงเป็นงานถึกของทีมงานพอสมควร ฮ่าๆ)

สิ่งนี้ชวนให้ย้อนทบทวนว่าทำไมวงนี้ยังสามารถยึดเวลาวันเสาร์อาทิตย์ของผมได้แบบสบายๆ

ใครอยากตามวงก็ไปตามได้ครับ ที่

[บล็อกนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากวง มีแต่ผมนี่แหละที่ไปสนับสนุนวงเขา โอเคนะ…]

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.