ไดอารี่หนีเที่ยวญี่ปุ่นเฉพาะกิจ #4 โอซาก้า-เกียวโต โอ้วเพลีย

ตอนที่แล้วผมสะบัดบ๊อบนั่งรถ 3 ต่อจากฟูจิซัง พร้อมตกรถไฟชินกันเซนโชว์ทุกท่านแล้ว ผมก็มาถึงเมือง Osaka เป็นที่เรียบร้อย โดยผมจะอาศัยเมืองนี้เป็นที่หลับนอนหลัก 3 คืนเหมือนกับที่โตเกียว โดยจะหมุนไปเที่ยว 2 เมืองที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากอย่าง Kyoto และ Hiroshima ครับ

เมื่อมาถึงที่พักแล้ว กางแผนที่ที่ทางที่พักเอาให้ ดูหนังสือเที่ยวนิดเดียว แล้วตัดสินใจแบกขาตั้งกล้องแล้วออกไปขึ้นรถ Osaka Loop ไปที่ Midoriyama เยือน Osaka Castle เลยเป็นที่แรกทันที (ตอนนั้น 2 ทุ่มกว่าแล้ว)

ตอนไปถึงหนาวมากครับ ลมแรงมากๆ ตอนนั้นอุณหภูมิ 10 นิดๆ แล้วผมก็เจอปราสาทโอซาก้าอยู่ไกลลิบๆ ที่ตัวปราสาทเปิดไฟสีฟ้าเสียด้วย สวยเชียว แต่กว่าผมจะไปถึงปราสาทต้องบอกว่าโคตรไกลและมืดมาก แถมลมแรง หนาวมากอีกต่างหาก ใช้เวลาเดินราว 20 นาทีเลย (น่าจะ 2 กิโลเมตรได้) ภาพก็ได้อย่างที่เห็นครับ

แต่ระหว่างถ่าย ขาตั้งกล้องผมก็หักให้ผมเห็นเลย เลยต้องฝากเอาไว้ที่ปราสาทโอซาก้าไว้เลย (กระเป๋าเดินทางเบาไปทันที ยิปปี้)

ตอนแรกไม่ทันได้คิดอะไรว่าวันนี้ไฟเปิดสีฟ้า แต่พอโพสต์ลงใน Instagram ปรากฏว่า ทั้งแคทโตะ @redlovetree และเบสซึโตะ @besuto ต่างบอกกันว่าผมโชคดีมาก เพราะโดยปกติแล้วปราสาทโอซาก้าจะเปิดเป็นไฟสีขาวเท่านั้น วันที่ผมไปเยือนเป็นวันเบาหวานโลก ซึ่งมีสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ เลยเป็นที่มาของการเปิดไฟสีฟ้า

…เบาหวานเลยทีเดียว -_-”

จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับมาพัก พร้อมวางจุดหมายต่อไปที่จะไปเยือนนั่นคือเมืองเกียวโต นั่งรถไฟจากโอซาก้าใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้นและใช้บัตรเบ่ง JR Pass ขึ้นรถแบบสบายๆไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ

แต่แล้วแผนก็เริ่มผิด เนื่องจากเมื่อคืนเพลียมาก คื่นขึ้นมา 10 โมงเช้า กว่าผมจะได้หลุดจาก guesthouse ก็เกือบ 11 โมงแล้ว ผมไปถึงที่เกียวโตก็เจอ Kyoto Tower รอรับผมเป็นอย่างแรกเลย จากนั้นผมขึ้นไปซื้อบัตร Day Pass ขึ้นรถเมล์ในเกียวโต ใบละ 1200yen ซึ่งปกติถ้าขึ้นแบบหยอดเหรียญทั่วไปก็คิดครั้งละ 220yen ครับ

ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจกับผมเท่าไหร่ เพราะฝนตกฟ้าหม่นมากครับ แต่มาถึงที่แล้วก็ต้องลุยกันไป ซึ่งที่แรกที่ไปคือ วัดทอง หรือ Kinkakuji ไปถึงนี่พบนรกแตกแรกคือ ทัวร์ลง+เด็กๆมาทัศนศึกษา ผมนี่ชอคไปเลย (ผมไม่ค่อยชอบประชากรทัวร์เป็นขโยงใหญ่ๆ แบบนี้อยู่แล้ว) แถมฝนก็คง ความสนุกลดลงแบบรวดเร็ว ผมเลยอาศัยถ่ายรูปไปได้บ้างแบบฟ้าหม่นๆ และเดินจบรอบไปอย่างรวดเร็ว (ค่าเข้า 400yen)

ด้วยความแค้น ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปอีกรอบ โดยยังใช้บัตรเดิมเข้าไป ซึ่งเข้าไปได้(แฮ่ะ) คราวนี้ฟ้าเป็นใจ ฟ้าเปิดครับ แถมคนโล่ง เพราะเค้าเข้าไปข้างในแล้ว ผมลั่น Shutter แหลกลานเลย ภาพเลยใสกิ้ง ยิ้มแป้นแล้นทันใด

พอแฮปปี้แล้ว ผมก็เริ่มดูพวกเครื่องลางที่โดยปกติตามวัดแทบทุกวัดจะมีขายอยู่แล้ว ซึ่งเค้าห้ามถ่ายที่ร้านครับ แต่สิ่งที่เค้าให้บูชาที่นี่จะมี พกแล้ว ขับรถหรือเดินทางปลอดภัย, สอบผ่าน และเรื่องเจอเนื้อคู่ โดยราคาก็แตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 300-500yen

คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมซื้ออะไร…^^

จากนั้นผมก็นั่งรถต่อ ไปปราสาทนิโจ-โจ (NiJo Castle) ค่าเข้า 600yen พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ได้อารมณ์ความเก่าดีครับ แต่ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก เลยใช้เวลาตรงนี้ไม่นานนัก เพราะว่าฟ้าเริ่มมืด(บ่ายสามกว่าๆ) แล้วตรงไปวัดเงินหรือ Ginkakuji ต่อเลย

วัดเงินผมให้ความสนใจกับทางเข้ามาก เพราะว่ามีร้านค้าเรียงรายเอาไว้มาดักเงินในกระเป๋าเราเยอะมากๆ จนถึงทางเข้าวัด

พอเข้ามาถึงในวัด ต้องบอกว่าเป็นวัดที่จัดสวนได้สวยมาก แถมต้นไม้เริ่มมีทั้งใบสีแดง เหลือง และเขียวแซมสลับไปมาอย่างสวยงาม และยังมีทางขึ้นด้านบนให้ชมวิวมุมสูงด้วยครับ ผมเดินอยู่นี่แบบเพลินๆ เกือบชั่วโมงเลยจนเริ่มพลบค่ำ เลยรีบเดินออกมา ก็พบว่าร้านรวงเริ่มปิดบ้างแล้ว…

จากตรงนั้นผมนั่งรถเมล์กลับมาที่สถานี JR Kyoto เพื่อขึ้นรถไฟอีกครั้ง แต่การจราจรในเมืองติดเข้าขั้นโคม่า ใช้เวลาเกือบ 40 นาทีผมถึงที่สถานี แล้วต่อรถไปยังสถานี Inari เพื่อไปยังศาลเจ้าฟุชิมิ-อินาริ ซึ่งถ้าเราคุ้นๆตากันคือ วัดที่มีเสาแดง หรือ โทอิริ เรียงกันเยอะมากๆ นั่นเอง

กว่าผมจะไปถึงก็มืดตื้อไปหมดแล้ว -_-” ก็เลยเก็บได้แค่ภาพในยามค่ำคืน ซึ่งผมก็ว่าสวยไปอีกแบบ *ปลอบใจตัวเองเบาๆ

และใจจริงผมอยากเดินให้ครบทุกโทอิริ (ทุกเสา) แต่ยิ่งเดินยิ่งเย็นครับ…มันพิกลๆ เลยเดินได้สักครึ่งทางแล้วต้องกลับเลย แต่ก็ยังมีคนเดินลุยต่อไปอีกนะครับ เพราะว่าเสาแบบว่าเรียงกันถี่มากๆ ซึ่งผมว่ามันต้องสวยแน่ถ้าถ่ายตอนกลางวัน

สิ่งที่ผมชอบนั่นคือป้ายไม้ ที่เขียนคำอธิษฐานซึ่งเป็นรูปหมาจิ้งจอกหมดเลย ซึ่งคนที่เขียนก็ยังคงความเป็นสไตล์คาวิอิ๊ ดูเอาหล่ะกันครับว่าเค้าแต่งหน้าหมาจิ้งจอกน่าฮักขนาดไหน 🙂

แล้วก็ได้เวลากลับสู่โอซาก้า กว่าจะมาถึงก็ 3 ทุ่มกว่า ต้องหาอะไรกิน ซึ่งหนีไม่พ้น Lawson Station ตามเดิม

จบอีกวันหล่ะครับ ตอนหน้าจะไปลุยฮิโรชิม่า เมืองที่เคยโดนระเบิดปรมาณู และเป้าหมายผมคือโทอิริกลางน้ำนั่นเองครับ…

รูปบางส่วนผมแปะไว้ที่ Facebook ผมด้วยนะครับ กดดูได้เลย Facebook charathBank

Comments

  1. ชอบเมืองโอซาก้า เงียบดี เดินตอนกลางคืนยังรู้สึกว่าปลอดภัย ปราสาทโอซาก้าตอนกลางคืนสวยจัง 🙂

  2. ใช่เลยครับ ความปลอดภัยสูงพอสมควร แต่ผมว่ายังแพ้ Singapore อยู่นิดนึง

    อย่างที่บอกไป ปราสาทโอซาก้าปกติแล้วจะเปิดไฟสีขาว มีวันผมไปนี่แหละ สีฟ้าเบาหวานวันเดียวเลย -_-“

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.