ถ้าไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องไป ไม่ต้องเข้าร่วมครับ…

สารภาพว่าตอนผมได้ยินคำนี้จากพี่ที่เคารพท่านนึงเมื่อนานมาแล้ว ผมรู้สึกไม่โอเคเอามากๆ ทำไมต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ในสภาวะที่เรากำลังเซ็งหรือเสียดายที่ไม่ได้เข้าร่วมงานบางงานด้วยสาเหตุที่เราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นัก แต่พอมาคิดอีกทีในช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้วก็ถึงได้รู้ด้วยตัวเองว่า มันก็จริงทุกประการอย่างที่ประโยคหัวเรื่องบอกไว้เลย

แต่ดีกรีความไม่สบายใจของแต่ละคนก็มีระดับที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น งาน outing บริษัทที่เป็นการขอความร่วมมือให้เข้าร่วม อันนี้เรามีสิทธิไม่สบายใจแน่ๆ แต่ในกรณีนี้เราก็อาจจะต้องไปเว้นแต่ว่ามีเหตุสุดวิสัยที่ไปไม่ได้จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับกรณีที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ในเมื่ออยู่ภายใต้บริษัทที่เรายังทำงานอยู่ การอยู่ร่วมกันกับทีมหรือเพื่อนพนักงานด้วยกันมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าที่จะแบ่งแยกไป

กลับมาที่ประโยคต้นเรื่อง…

อย่างที่บอกไปว่าประโยคนั้นมันคือเรื่องจริงตราบใดที่เราไม่สบายใจเราก็ไม่ควรที่จะเสียเงิน หรือแม้กระทั่งเสียเวลาที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งในกรณีนี้มันไม่ได้มีการ (แกม) บังคับว่าต้องไปเข้าร่วมเพื่อข้อแลกเปลี่ยนหรือบางสิ่งบางอย่าง ในเมื่อมันมีทางเลือก “ไม่ไป” ให้เราเลือกได้อยู่

มาถึงตรงนี้แล้วเหมือนจะจบบล็อกแบบดื้อๆ ซึ่งก็จบได้ แต่ถ้าลองมาคิดต่อก็ยังเอาเรื่องนี้มาติดต่อได้นั่นคือ feedback

วิธีจัดการใจตัวเองในสิ่งที่เราไม่สบายใจยุคนี้คือการโยนความคิดตัวเองที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งโยนขึ้นใส่ออนไลน์เป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้วมั้งในเวลานี้ บ้างก็เพื่ออยากระบายในที่ของตัวเอง (ที่ไม่มีจริงบนโลกออนไลน์) หรืออยากหาพวกที่คิดเหมือนกันกับตัวเอง (ส่วนใหญ่ not all จะอยู่ในประเภทนี้) แต่ก็ยังพอมีส่วนว่าเราสามารถส่งข้อมูลหรือความเห็นของตัวเองไปหาคนที่รับผิดชอบ ซึ่งก็ทำผ่านบนช่องทางออนไลน์หรือจะออฟไลน์ก็ได้ เป็น feedback ในมุมมองของเรา

feedback หรือ response ในหลายๆ ครั้งมีความจำเป็นมากหากมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในกรณีที่มันสร้างผลกระทบที่ไม่ใช่กับแค่ตัวเราเพียงอย่างเดียวหรือเรามอบแบบภาพที่ใหญ่กว่าเรื่องของคนคนเดียว หรือ แต่สิ่งที่ต้องนึกถึงและต้องไม่ลืมที่จะเปิดใจที่จะได้รับคำตอบหรือเหตุผลหลังจากที่ feedback ออกไปด้วย

การรับฟังอย่างเข้าใจ หรือพยายามใส่หมวกในฐานะที่อีกฝ่ายเขาเป็นอยู่มันย่อมดีกว่า เพราะมันคือการเอาใจเขามาใส่ใจเราและไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเองเพียงอย่างเดียว หาใช่ว่าจะเอาแต่แค่ feedback เพื่อความสนุก ความสะใจ หาพวกพ้อง หรือแม้กระทั่งเพื่อความเห็นแก่ตัวเฉพาะกลุ่มเพียงอย่างเดียว และแน่นอนว่าอีกฝั่งต้องพร้อมที่จะรับฟังด้วยเช่นกัน

ภาพด้านล่างเป็นภาพที่ผมเคยแชร์ไว้ใน Facebook ส่วนตัวของผม ที่ผมถ่ายไว้นานมากแล้วจากหนังสือเล่มนึง ขออภัยที่จำไม่ได้เพราะมันนานหลายปีแล้ว แต่เป็นส่วนนึงที่ผมชอบมากๆ

ผมเชื่อว่า feedback มันมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย แต่สิ่งที่สำคัญคนที่ให้ feedback ก็ต้องเปิดใจรอรับกับสิ่งที่ได้กลับมาด้วยเสมอ และทุกสิ่งที่ได้ตอบกลับมาย่อมถูกใจและไม่ถูกใจ ซึ่งมาพร้อมกับความสบายใจและไม่สบายใจของเรา แน๊ะ วกกลับมาได้เฉย

ดังนั้น เมื่อเรารู้คำตอบจากสิ่งที่ได้รับและได้คิดกับใจตัวเองแล้ว เราก็ย่อมเลือกได้แล้วหละครับ ว่าคุณจะยังคงอยู่ต่อด้วยความไม่สบายใจ หรือหันหลังกลับไปเพื่อหาพื้นที่ที่ตัวเองรู้สึกโอเคขึ้นสบายใจขึ้นครับ 🙂

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.