แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ

บล็อกนี้ไม่ได้พูดถึง BNK48 แต่เป็นการจดบันทึก เพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมที่ทำงานเก่าเลี้ยงส่งผมเนื่องในโอกาสที่ผมทำงานเป็นวันสุดท้ายที่ Digital Office SCG

ถ้าพูดถึงการลาออก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สี่ในรอบชีวิตผม ซึ่งการตัดสินใจแต่ละครั้งมันไม่ง่ายเลยกว่าเราจะเลือกที่จะแจ้งหรือกดผ่านระบบเพื่อก้าวออกมา โดยเฉพาะตอนนี้ที่ถือว่าเสี่ยงมากๆ ด้วยสภาพและสภาวะหลายๆ อย่างที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่ได้ตัดสินใจแบบผม ทั้งนี้ก็เพราะตัวเองและคนรอบตัวมันมีน้ำหนักมากกว่าการที่จะต้องมาเสี่ยงกับสิ่งใหม่ๆ

ครั้งนี้ผมตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ออกมาเรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่ลืมไปลามาไหว้พี่ๆ หัวหน้าที่เราเคารพและทำงานด้วย

วันสุดท้าย มีการนัดกันไปกินข้าวเลี้ยงส่งแถวๆ อารีย์ ทุกอย่างเรียบง่ายมาก เพราะเหมือนการกินข้าวปกติที่ผมเองอาจจะไม่ค่อยได้มีโอกาสไปกินด้วยกับหลายๆ คนในช่วงท้ายๆ ของการทำงาน

ช่วงท้ายของการกินข้าวหลังจากจุกจากมื้ออาหาร มีการให้เปิดใจ อยากถามอะไรถามมาเลย หรืออยากจะบอกอะไรบอกได้ตรงๆ ซึ่งผมเองมักจะเขินทุกครั้งที่จะได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้ อยากฟังก็อยากฟังนะ แต่ฟังแล้วน้ำตามันจะซึมทุกที

เนื่องจากผมเขิน ผมก็จะจำอะไรไม่ได้มาก แต่บางส่วนผมก็พอจะถอดเทปออกมาเก็บเป็นเมมโมรี่ทดไว้ในใจ

  • คำถามที่ทุกคนตั้งใจถามผมคือ ที่โพสต์ใน facebook นี่หมายถึงอะไร หรือหมายถึงใคร (ผมก็ตอบไปว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพลงที่ผมฟังในช่วงเวลานั้นๆ มากกว่า ผมก็จะตัดท่อนที่ใช้คำสวยๆ หรือสะเทือนใจ มาแปะไว้ที่ status เท่านั้นเลย)
  • ชอบใครอยู่ตอนนี้ บอกมาเถอะ (ซึ่งผมก็บอกไปแล้วนะว่าเป็นใคร แค่ผมรู้สึกว่ามันยากสำหรับผม move on ยากหน่อยเพราะผมตกลงไปที่แกนโลกของคนนั้นแล้ว แต่ก็จะพยายามปรับตัวต่อไป
  • มีพี่คนนึงบอกว่า ตอนเห็นผมครั้งแรก เหมือนมีกำแพงมากั้น เพราะผมดูจะเข้าถึงยาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยิน
  • ขอบคุณที่เป็นหัวหน้าที่คอยเป็นกำแพงป้องกันทุกสิ่งอย่างให้
  • เพื่อนคนนึงบอกว่า ผมเป็นคนที่เอาใจใส่รายละเอียดที่คนมองไม่เห็น อันนี้ไม่นึกว่าจะมีคนพูดถึงและมีคนเห็น จริงๆ อาจเป็นเพราะเราเป็นของเราแบบนี้มานาน แต่ไม่มีคนสนใจ พอมีคนพูดเรื่องนี้ขึ้นมา บอกเลยว่าน้ำตาผมรื้นทันที ที่พิมพ์อยู่ตอนนี้ก็ร้องไห้ไปละ เพราะคำพูดมันยังก้องอยู่ในหัวผมอยู่เลย
  • ความเป็นกัลยาณมิตรที่ดี ที่มีให้กันมาตลอด 10 กว่าปีที่รู้จักกันมา (เรียกได้ว่าตั้งแต่เพื่อนคนนี้ยังไม่แต่งงานจนแต่งงานแล้ว)
  • อวยพรให้โชคดีกับก้าวต่อไป ซึ่งในห้องนั้นก็พอจะรู้แล้วว่าผมจะทำอะไรต่อ นอกจากการไปตามวงไอดอลที่ผมนี่ก็ตามจังเล้ยยย

ผมคงไม่มีอะไรตอบ นอกจากว่าผมดีใจที่ได้ทำงานด้วย แม้เป็นระยะเวลาที่สั้นมากๆ ในการทำงาน แต่มันก็ช่วยให้ผมเข้าใจและรู้ว่ายังมีเพื่อนๆ พี่ๆ อีกหลายคนอยู่มาตลอด ที่คอยช่วยเหลือ เพราะคนเราไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง ยังต้องขอความช่วยเหลืออยู่เรื่อยๆ

และผมแพ้คำว่า เป็นไงบ้าง โอเคอยู่ไหม มีอะไรให้ช่วยไหม บอกได้นะ

ด้วยความแพ้ ผมเลยต้องทำการแก้แพ้ ด้วยการบอกกับทุกคนเช่นกันว่า เป็นไงบ้าง โอเคอยู่ไหม มีอะไรให้ช่วยไหม บอกได้นะ

ขอบคุณความอบอุ่นที่มีให้กันมาตลอด 1 ปี 10 วันที่ Digital Office ครับ

ไว้จะแวะไปหาบ่อยๆ นะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.