พอพูดถึงคำว่า “ชัยชนะ” เราจะรู้สึกฮึกเหิม หัวใจเต้นระรัว พร้อมกับความยินดีปรีดาจากผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ชัยชนะมันก็มาคู่กันกับคู่คำตรงกันข้าม นั่นคือ แพ้ พ่ายแพ้ ล้มเหลว ซึ่งความรู้สึกก็ตรงข้ามกันกับการได้ชัยชนะ
แต่เส้นทางกว่าจะได้คำว่าชัยชนะโดยส่วนมากมักใช้เวลานาน นานจนบางทีเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ชัยชนะ มันเลยมีคำนี้เกิดขึ้นมา นั่นคือ Small Win ภาษาไทยผมไม่รู้จะนิยามอย่างไรดี เพราะด้วยคำ 2 คำนี้มีความหมายค่อนข้างตรงตัวพอสมควรในตัวมันแล้ว
เมื่อประมาณปลายปี 2563 หรือตอนที่ผมทำงานบริษัทเกี่ยวกับ Food Delivery ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ผมได้ทำงานบริษัทนี้ แต่ก็ได้อะไรหลายๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานและวิธีการทำงานที่ดูน่าสนใจและรู้สึกปลุกไฟได้ไม่น้อย (แม้จะไม่ค่อย match กับสิ่งที่ผมอยากจะทำก็ตามที เลยเป็นสาเหตุให้ต้องออกมาตามหาความฝันตัวเองอีกครั้ง)
แต่ที่นี่เองก็ทำให้ผมรู้จักคำนี้ กว่าจะรู้ก็ทำงานมาร่วมๆ เกือบ 20 ปีเข้าให้แล้ว
Small Win คือชัยชนะเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราพยายามลงทุน ลงแรง ลงใจ ลงสมอง ในช่วงเวลาสั้นๆ มันเกิดผลอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์ทั้งในแง่ส่วนตัวหรือจะเป็นด้านการทำงาน โดยเรารู้สึกว่าเราโอเคกับมัน
จะเรียกว่ามันคือการ Update Mini Milestone หรือเป้าหมายแบบเล็กๆ ที่เราไปถึง ประมาณนั้นก็ได้นะครับ สำหรับ Small Win
ทุกสัปดาห์ที่ผมทำงานกับทีมปัจจุบัน จะมีการประชุมสั้นๆ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ในวันศุกร์ เพื่อพูดคุยกันว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ทุกครั้งก่อนจะเริ่ม จะมีการพูดถึงสิ่งที่เป็น Small Win ของแต่ละคนก่อน เพื่อให้รู้สึกว่าเราเริ่มต้นการพูดคุยและสนทนาด้วยเรื่องดีๆ ก่อนที่จะมีเรื่องอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาที่ต้องเอามาถกกันนั่นแหละมาเป็นหัวข้อถัดไป
การได้ยินเสียง เย้ ดีใจ หรือความยินดีที่ได้ส่งต่อมาจากคนอื่นๆ ในที่ประชุมไม่ว่าจะเป็น Face to Face หรือแบบออนไลน์ มันช่วยให้หัวใจของเรามันฟูขึ้นนะ เพราะสิ่งที่เราได้ทำไปมันสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ในทางที่ดี ถึงจุดมุ่งหมายเล็กๆ แล้ว ผมเลยรู้สึกชอบการมี Small Win ทั้งๆ ที่อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่มาจากตัวเองก็ตามที
คุณก็มี Small Win ได้ในชีวิตประจำวัน
จะว่าไปแล้วมันก็คือการตั้ง Goal หรือเป้าหมายในแต่ละวันของคุณเมื่อคุณมีสติหลังจากตื่นนอนนั่นเอง พอก่อนจะเข้านอน คุณก็มาเช็กตัวเองว่า คุณได้ทำ Goal ที่คุณตั้งไปถึงไหนแล้ว น่าพอใจขนาดไหน
เช่น วันนี้ผมตั้งเอาไว้ว่า ผมจะต้องเขียนบล็อก 1 ตอนก่อนนอน ซึ่งถามว่าฝืนไหม …ฝืน ฮ่าๆ แต่ผมรู้สึกว่าผมอู้มาหลายวันแล้วกันการเขียน ซึ่งจริงๆ ผมมี Goal หรือ Commitment ที่ใหญ่กว่านั้นคือการพยายามเขียนบล็อกให้ได้วันละตอนเหมือนเป็นไดอารี่ แต่ก็สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เลยค่อยๆ ปรับลด Goal ตัวเอง โดยทำให้ตัวเองเขียนถี่ขึ้น
พอเราได้ Small Win แล้ว เราจะรู้สึกมีพลังงานบางอย่างช่วยขับเคลื่อนให้เราก้าวไปคว้า Small Win อันต่อไปได้เรื่อยๆ ซึ่งผมพบว่าจริง เราจะรู้สึกว่า เฮ้ย เราก็ทำได้เว้ย การเพิ่มโอชิ (ไม่ใช่!) การทำบางสิ่งบางอย่างชิ้นเล็กๆ ให้มีความก้าวหน้า หรือสำเร็จได้
นั่นเลยเป็นที่มาที่ไปของบล็อกนี้นั่นเองครับ
ปล. ผมว่าการทำ Small Win อารมณ์ก็คงคล้ายๆ กับให้เราดีใจและใจดีกับตัวเองให้เยอะขึ้น ด้วยจำนวนวันของชีวิตเราที่ค่อยๆ ลดลงทีละวันจาก 20,000 วันหล่ะมั้งครับ 🙂