2565 โอกาส ความโชคดี และจิตใจที่เบาขึ้น

เมื่อเข้าใกล้สิ้นปี การได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปีน่าจะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทุกคนได้ย้อนระลึกถึง บ้างก็กราฟพุ่งทะลุเพดานบ้าง บ้างก็ชงแบบเข้มไม่มีเหตุผล หรือบางคนก็เหมือนรถไฟเหาะตีลังกาไถขึ้นม้วนลงสลับกันไป

สำหรับผมเอง 2565 คือปีที่ทรงๆ ที่สุดกับทุกๆ ด้าน ในรอบ 10 ปี จะมองว่าราบเรียบเกินไปเมื่อไปเทียบกับชีวิตคนอื่นก็น่าจะพอพูดได้มั้ง (ไม่ได้อยากเปรียบเทียบแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ) แต่ถ้ามองสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับตัวก็คงเป็นเรื่องการได้รับโอกาสและสภาพจิตใจที่ช่วยให้ร่างกายดีตามขึ้นไปด้วยเทียบกับหลายปีก่อน

ปีนี้ผมได้กลับบ้านนานขึ้นกว่าเดิม เพราะผมยื่นลาออกจากที่ทำงานเดิมที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็ถือเป็นความโชคดีที่ได้รับโอกาสจากหมอบิ๊กและนุช แห่ง DR.BIG Clinic มาช่วยงานด้านที่ปรึกษา Content และ Marketing ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากพี่ๆ น้องๆ ที่ชวนกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ อีกรอบ

การกลับมาช่วยงานโคราชตลอดระยะเวลา 3 เดือนเหมือนได้พักเบรกจากความวุ่นวายในกรุงเทพอีกรอบ ได้อยู่บ้าน ได้เจอน้องกับพ่อทุกวันจากเมื่อก่อนที่กลับโคราช 1-2 เดือนครั้ง

ซึ่งก่อนหน้านี้เกือบจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านการงานของผม สุดท้ายก็มีเหตุที่ทำให้ทุกอย่างพลิกตลบกลับสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม แต่มันก็ดีเพราะผมได้เปิดโลกอีกศาสตร์ขึ้นมาซึ่งทุกวันนี้แม้ไม่ได้ทำงานด้านนี้ก็ยังสนใจและอยากทำนั่นคือ UX (User Experience) ที่ทุกวันนี้ผมก็ยังนั่งเรียนออนไลน์ไม่ก็ลงคอร์สในไทยอยู่เรื่อยๆ

ส่วนสุขภาพจะป่วยหนักสุดก็แค่ 2 ครั้งคือ ทุกครั้งที่ฉีดวัคซีนโควิด และตอนเป็นโควิด อันนี้ป่วยแบบโงหัวไม่ขึ้นจริงๆ นอกนั้นก็จะปวดหัวเป็นไข้ตามปกติแต่ก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

สิ่งที่ทำมากที่สุดในปีนี้น่าจะเป็นการบินขึ้นไปเชียงใหม่ เป็นการบินขึ้นเหนือในรอบปีที่เยอะที่สุดในชีวิตแล้ว มีทั้งไปตาม CGM48, ไปนอนเฉยๆ แบบอยากไปก็บินเลย แล้วก็มีบินไปลำปางช่วงก่อนจะลาออกจากที่ทำงานที่กรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งการบินไปลำปางเหมือนกับทุกอย่างช้าลงกว่าเดิม เมืองเงียบแบบประทับใจผมสุดๆ เพราะได้ Detox การออนไลน์ออกแทบจะทั้งทริป

การบินบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีเพราะมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่บินทีนึงก็จ่ายไม่น้อย แต่พอได้มาลองดูสภาวะจิตใจแล้วก็พบว่ามันดีและคุ้มพอที่จะยอมจ่ายเงินและแอบคิดไปถึงว่า เราจะหาบ้านเล็กๆ ที่เชียงใหม่ไว้สักหลังดีไหมนะ…

อีกสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีขึ้นคือการปล่อย อาจจะปล่อยได้ไม่ 100% แต่รู้สึกว่าตัวเองรั้งสิ่งที่เป็นทุกข์ให้อยู่กับเราด้วยการใช้เวลาที่สั้นขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ไม่จมนาน แต่จำเป็นต้องมีคนช่วยอยู่บ้าง เพราะตัวเองยังคงรู้สึกถึงความเคว้งคว้างทุกครั้งเมื่อมีทุกข์ การมีเพื่อนหรือคนที่รู้จักคอยสะกิดมันดีสำหรับผม และนี่มั้งที่เป็น Solution ที่ผมพบเจอในปีนี้

ย่อหน้าท้ายๆ แล้วถ้าไม่พูดถึงเรื่องดวงก็คงไม่ได้ เพราะใครที่พอจะรู้จักกับผมจะรู้ว่าผมชอบดูดวงมาก ซึ่งปีนี้ที่กำลังจะผ่านไป (ขณะที่เขียน) ก็พบว่าปีที่ผ่านมาตรงกับการทำนายระดับ 80-90% ซึ่งบางอย่างก็เหลือเชื่อแต่ก็เกิดขึ้นไปแล้ว ส่วนที่กำลังจะเข้ามาก็เหลือแค่เวลาและสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันว่าจะนำพาให้เกิดเหตุการณ์ในอนาคตแบบไหนกัน


ปิดบล็อกปีนี้ด้วยประโยคที่ผมชอบและคิดถึงเสมอเวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าดีหรือร้าย

Everything happens for a reason ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุผลของมัน

สวัสดีปีใหม่ครับ

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.