จากที่ผ่านมาผมเขียนแต่เรื่อง IT ไม่ก็ app บนมือถืออาจจะเลี่ยนๆ กันไปบ้าง วันนี้ผมเลยขอเปลี่ยนแนวไปทางเรื่องภาษาบ้างนะครับ เพราะทุกวันนี้เราทุกคนคงไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงภาษาอังกฤษได้ ไม่ว่าจะการเรียน ทำงาน หรือการใช้ชีวิตก็ตาม มันก็ยังตามหลอกหลอนเราไป เรื่อยๆ
ถ้าถามว่าผมเก่งภาษาอังกฤษไหม ต้องตอบสวนไปทันใดว่า บ่!…เอ้ย ไม่เลยครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังต้องพก dictionary (บนมือถือและเป็นเล่ม) เพื่อเปิดอยู่ทุกวัน ส่วนพูดก็พอ speak แบบ snake snake fish fish กันไปพอเอาตัวรอด ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรบราฆ่าฟันกับชาวต่างดาวทั้งยุโรปและเอเชีย …แม้ในบางครั้งก็แอบสบถเป็นภาษาไทยไปก็มี เช่น boring duck ให้ชาวต่างดาวงงเล่นว่าตูเซ็งเป็ด หรือ wipe crocodile ว่าเช็ดเข้ เป็นต้น
วันนี้ผมก็นั่งอ่านข่าว ทวีตข่าวที่น่าสนใจไปตามปกติที่ผมทำ และเจอหน้าเวปๆ นึงที่ผมถึงกับต้องนั่งอ่านแบบตั้งใจเลย เพราะว่ามันเป็น infographic เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ผมเกาหัวทุกคำ เพราะไม่รู้จักเลยสักคำ ฮ่าๆ หลังจากอ่านจบ ผมเลยเริ่มนั่งดูรายละเอียดหน้าอื่นๆของเวป ก็ถึงกับร้องเฮ้ย มันเจ๋งมากๆ มันเป็นอะไรที่บางอย่างเราไม่รู้แล้วเค้าอธิบายได้ชัดเจนเข้าใจง่าย พูดพร่ำมาซะนาน แนะนำเวปกันเลย นั่นคือ grammar.net
แค่ชื่อเวป grammar.net ก็บอกอย่างชัดเจนว่าเกี่ยวกับ Grammar หรือไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ หลายคนอาจจะส่ายหน้า พูดทำไม ไม่เอาโว้ย แค่นี้ก็จะอ้วกอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งครับ อย่าเพิ่ง ลองอ่านมุมมองหรือตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมานิดนึงก่อนก็แล้วกัน
มาดูหน้าแรกที่ผมเปิดดูซึ่งเกริ่นไว้ซะยาวก่อนแล้วกันครับ เป็น infographic เกี่ยวกับ 10 คำศัพท์ที่เรามักเข้าใจความหมายผิดจากแนวคำที่สะกด Words are not what they seem ซึ่งผมบอกได้เต็มปากเลยว่า ผมคิดไปทางซ้ายทุกคำจริงๆ ซึ่งผมผิดหมดทุกคำ! boring duck!
รูปแรกอาจจะเข้าใจยากไป ผมขอนำเสนอเรื่องง่ายๆ ที่ผมก็ยังใช้ผิดตลอดนั่นคือการใส่ a an the ซึ่งทำออกมาเป็นรูปแบบ flowchart ซึ่งอ่านแล้วเข้าใจง่ายมากๆ ไม่เชื่อลองดูซิครับ
หรืออีกตัวอย่าง อย่าง preposition หรือคำบุพบท อย่าง in, on, at, for, since ก็มีหลักการใช้งานแบบเข้าใจไม่ยากเลยจริงๆ ครับ
และตัวอย่างสุดท้ายที่ผมชอบแบบส่วนตัวมากที่สุด นั่นคือ 10 วิธีการปรับปรุง grammar ของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราอาจละเลย อ่านแล้วช่วยเราได้(ถ้าเราเอาไปใช้จริงครับ) ^_^
สำหรับตัวอย่างอื่นๆ ลองดูที่เวปได้เลยครับ น่าสนใจอย่างยิ่ง grammar.net
และมีแถมที่เกี่ยวกับภาษาอีก infographic อีกตัวนึงครับ รูปนี้ผมเคยทวีตไปเมื่อเดือนก่อน แต่ข้อมูลก็ยังน่าสนใจอยู่ อย่างภาษาอะไรที่เรียนรู้ยากที่สุดในโลกในมุมมองของคนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
และผลการศึกษาพบว่า อารบิค,จีน,เกาหลี และญึ่ปุ่น เป็น 4 ภาษาที่เรียนและเข้าใจยากที่สุด ส่วนภาษาไทยความยากอยู่เพียงระดับกลางๆ เท่านั้น
ที่มา grammar.net, voxy.com
ตบท้ายบลอคเบลอๆ
เผลอแปปเดียวบลอคนี้ก็เป็นลำดับที่ 100 ของผมแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเขียน มันคือความสุขที่ผมได้ทำ ได้แบ่งปันความรู้ ได้แชร์ในสิ่งที่ผมรู้บ้าง หรือรู้นิดหน่อยให้รู้มากขึ้นด้วยการไปค้นคว้าจนแปลงมาเป็นบลอคให้ได้อ่านกัน และสิ่งที่ผมได้รับมานั่นก็คือ การเรียบเรียงลำดับความคิดที่ดีขึ้น รวมไปถึงโอกาสต่างๆ ที่ได้รับจากหลายๆ คนเกี่ยวกับการเขียน ต้องขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ครับ
^__^