วันนี้เพิ่งดูฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์จบแบบครบ 12 ตอน ก็เลยแอบมีความคิดว่าเราน่าจะเขียนถึงฉลาดเกมส์โกงเวอร์ชั่นในความรู้สึกของเราสักหน่อย
- นักแสดงที่เป็นตัวหลักของเรื่องโดยเฉพาะคุณลินกับแบงค์ที่ได้จูเน่ BNK48 และเจ้านาย จินเจษฏ์ มาเล่นซึ่งเป็นงานแสดงแรกของทั้งคู่และแบกความกดดันไว้มาก
- ซึ่งจริงๆผมก็มีตั้งคำถามไว้ตั้งแต่ตอนรู้ว่านักแสดงนำทั้งสี่คนเป็นใครบ้าง ถึงขนาดว่าผมยังบอกว่าเจ้านาย ที่เล่นเป็นแบงค์ กับ ไอซ์ พาริส ที่เล่นเป็นพัฒน์ ควรจะสลับบทกัน
- ผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือคุณพัฒน์ ที่มีผลงานกำกับ Project S - S.O.S. Skate ซึม ซ่าส์ โดยส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจเรื่องนี้มากๆ อ่านไปเพราะช่วงหนึ่งผมเข้าไปอยู่ในโลกนั้นด้วย
- แนะนำว่าก่อนจะไปดูตัวที่เป็นซีรีย์ ให้ดูเวอร์ชั่นหนังที่ ออกแบบ และ นน ชานน เล่นก่อน น่าจะสนุกขึ้น
- หลายคนที่ผมรู้จักเลือกที่จะดูรวดเดียวจบ 12 ตอน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรและผมมองว่ามันก็สนุกไปอีกแบบหนึ่งเพราะไม่ต้องเสียเวลารอ
- ถ้าย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องเนื้อเรื่องในหนัง ความยากที่ใหญ่ที่สุดของฉลาดเกมส์โกงในจอทีวี ก็คือการที่เอาเรื่องที่อยู่ในหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และคนรู้เรื่องราวจนถึงตอนจบแล้ว มาขยายต่อให้เป็นซีรีส์และทำให้รู้สึกแปลกใหม่
- มีประโยคตอนที่ promote ก่อนจะฉายบอกไปว่าตอนจบไม่เหมือนกับในหนังซึ่งก็เป็นประโยคที่เชิญชวนให้คนที่เคยดูเวอร์ชั่นในหนังแล้วได้ติดตามดู
- การขยายความในเรื่องผมมองว่าทำได้ค่อนข้างดี รู้สึกได้ว่ามันขยายในส่วนที่ควรขยาย แต่ก็มีบางฉากเหมือนกันที่รู้สึกว่ามันยืดไปหน่อย
- มุขการโกงแบบใหม่ๆ ถูกนำมาเล่าเรื่อง จนบางวิธีมันแอบดูเว่อร์ไปมาก
- ช่วงสี่ตอนสุดท้ายถือว่าเป็นช่วง climax ของเรื่องเลยก็ว่าได้ซึ่งผมมองว่าทีมเขียนบทน่าจะทำงานตรงนี้ค่อนข้างหนักมาก ซึ่งถ้าย้อนไปตั้งแต่ตอนแรกๆ ของเวอร์ชั่นที่เป็นซีรีส์ ก็คิดว่าทำการบ้านหนักไม่แพ้กัน เพราะต้องไม่ลืมว่าเส้นเรื่องหลักคนรู้แทบจะหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ส่วนที่มันขยายหรือเติมขึ้นมา และมีโจทย์ว่าจะทำยังไงให้มันชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมหรืออุดรอยรั่วจากสิ่งที่พลาดไปในเวอร์ชั่นหนัง
- การอุดรอยรั่วจากเวอร์ชั่นหนังถือว่าทำได้ดี เพราะมันคือการตอบข้อสงสัยต่างๆ ที่มีโดยเฉพาะเรื่องการสอบ แต่บางอย่างก็ไม่ตอบนะ เลี่ยงด้วยการเล่าไปในทางอื่นแทน
- ส่วนตัวยังแอบเสียดายส่วนที่ขยายความออกมาที่บทสรุปทำออกมาได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นักกับตัวละครบางตัวที่ตอนแรก promote หรือปูขึ้นมาอย่างดี (ต้องดูเอาเองนะครับว่าผมหมายถึงใคร)
- การคัดเลือกนักแสดงในเรื่องทุกคน คือสิ่งที่ต้องชมอย่างมาก เพราะคัดคนที่เหมาะที่จะรับบทนั้นๆ และเล่นได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเจ็กและลูกน้อง
- ตอนจบเท่าที่ผมลองอ่านดูตาม feedback ต่างๆ ก็มีความเห็นออกเป็นสองทาง ทั้งทางที่ดีและทางที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นักแต่ สำหรับผมแล้ว มันเป็นการจบที่มีการเปรียบเทียบได้เจ็บแสบมากๆ ด้วยการเปรียบเปรยกับสิ่งที่เป็นอยู่หรือสิ่งที่เจอในปัจจุบัน
- และการจบแบบนี้ก็เป็นสไตล์แบบจีดีเอชคือจบแบบปลายเปิดแค่รอบนี้อาจจะเปิดกว้างไปหน่อยจนเราอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วจะทำอะไรต่อ
- ไม่จำเป็นจะต้องมีซีซั่นสองเพราะคิดว่าจบในตัวแล้ว
- สุดท้าย สิ่งที่ผมชอบมากๆ สำหรับเวอร์ชั่นนี้คือ การทำงานอย่างหนักของทีมเขียนบท เพราะว่าถ้าสังเกตุดู จะเห็นรายละเอียดที่อยู่ในละครเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเล่า, วิธีถ่าย, การวางเฟรม/แบ่งเฟรม หรือแม้กระทั่งเงาสะท้อน ทุกอย่างล้วนแล้วถูกคิดมาเพื่อสื่อสารกับคนดู หรือเป็น Hidden Messageให้กับคนที่ดูแทบทั้งสิ้น
ใครอยากดูฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ตอนนี้ก็ลองเข้าไปดู WeTV ได้เลยครับ ส่วนใครที่อยากดูแบบหนังต้นฉบับก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Netflix ได้เลยครับ