แทบทุกคืนผมต้องรอเวลาเที่ยงคืน เพื่อที่จะเข้าไปที่ฟีเจอร์นึงบน Facebook ที่สามารถเข้าไปดูว่า ในอดีตของวันเดียวกันนี้เราได้เขียนหรือได้โพสต์อะไรลงใน Facebook บ้าง นั่นคือ Memories หรือ On This Day
หลักๆ มันก็คือการไปดูว่าในอดีตที่ผ่านมา เราเคยโพสต์อะไรบ้างบน Facebook ของเรา หรือเราให้โพสต์ของเพื่อนที่ Tagged ชื่อเรามาอยู่บนหน้า Profile ของเรานั่นเอง ซึ่งถ้าเรื่องแบบไม่ได้ห่างจากปัจจุบันมากก็พอจำได้ บางเรื่องที่เขียนแบบลอยๆ เราก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นเราแซะใคร (ฮา)
แต่เราก็พบว่า ตัวเองปล่อย Toxic ช่วงที่แย่ๆ ของชีวิตมาค่อนข้างเยอะ ยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็เกิดจากความคิดตัวเองแทบทั้งสิ้น มีทั้งระดับแย่ แย่มาก แย่โคตรๆ จนต้องแอบไปตั้ง Only Me หลายอันเลย
พอดูทุกวัน เราก็จะเห็นวิวัฒนาการทางอารมณ์ของเราที่เป็นการสวิงขึ้นลง แต่ส่วนใหญ่จะลงแล้วลงลึกด้วย เพิ่งจะมาค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงหลังๆ
สิ่งที่เราทำหลังจากที่มานั่งเรียนรู้อารมณ์ของตัวเองก็คือ การรีบเข้าใจตัวเองให้เร็วที่สุด ไม่ให้อารมณ์พาไปแบบพุ่งพรวดเหมือนเมื่อก่อน อาจจะด้วยอายุที่ชราลงในทุกๆ วัน ผนวกกับเรามีเวลาในการเอาใจใส่จิตใจตัวเองมากขึ้น เลยทำให้เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งแวดล้อมก็คือปัจจัยนึงที่ทำให้เราอยู่ในภาวะแบบนั้น ที่ก้าวไปเปิดประตูความซึมเศร้า แต่ก็ยังดีที่เรายังมีคนรอบตัวที่ยังดีกับเรา ช่วยดึงเราจากจุดนั้นออกมาได้ แต่ท้ายที่สุด ตัวเราเองก็ต้องเลือกเองอยู่ดีว่่า ตอนที่เรากำลังถูกดึง เราเลือกจะท่วงน้ำหนักให้หนักขึ้น หรือปล่อยตัวปล่อยใจให้เบาเพื่อให้ขึ้นมาได้ง่าย
“ช่างแม่ง” มักถูกเลือกเป็นตัวเลือกแรกเวลาที่เราจะพูดกับตัวเองเวลาทุกข์มันมา แต่แม่งมันปล่อยไม่ได้
ผมเลยเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นว่า อย่าเพิ่งรีบช่างแม่ง ขอเอามาคิดก่อนนิดนึงว่ามันแก้ไขอะไรได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาใหม่ หาวิธีใหม่ดู ถ้าไม่ได้จริงก็ปล่อยวาง
มันเลยรู้สึกว่าการีบวางแบบกระแทก กับวางแบบนุ่มๆ มันต่างกัน และกระบวนการทางความคิดและการใช้ใจก็ต่างกันเหมือนกัน
ทำไมมันไปเรื่องนี้ได้นะ ฮา
เอาเป็นว่าผมยกให้ Memories เป็นเครื่องมือ Re-check จิตใจผมในทุกๆ วันเท่าที่ทำได้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ก็….ปล่อยครับ ง่ายดี
Comments