ทุกสิ้นปีจะได้เห็นได้อ่านเพื่อนพ้องน้องพี่ใน Facebook เขียนร่ายยาวบ้างสั้นบ้างเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองเจอ ซึ่งตัวเองก็เขียนเหมือนกันแหละ 555 แต่หลังๆ มาความยาวในการเขียนบน Facebook ก็สั้นลงซึ่งก็แปรผันตามความขี้เกียจโพสต์ซึ่งปีนี้ตัวเองโพสต์ลงบน Facebook น้อยลงกว่าเดิมเช่นกัน เพราะเริ่มไม่อยากให้ใครรู้เรื่องที่ไม่จำเป็นมากขึ้นแต่ไม่ถึงกับตั้ง Only Me
ตอนแรกนึกอยู่นานว่าจะเขียนเป็นประมาณไหนดี จะเล่าเฉยๆ ก็คงจะดูนิ่งไป งั้นขอเลือก 5 เพลงที่ชอบและตรงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นในปี 2023 มาเป็นตัวนำเรื่องก็แล้วกันนะฮะ
จะไม่หนีจากความฝัน (Yume wa Nigenai) – CGM48
เพลงนี้คือเพลงอันดับ 1 ที่ผมฟังมากที่สุดของทั้ง Spotify และ YouTube Music มันเป็นเพลงที่ถูกจริตผมในทุกๆ อย่างตั้งแต่ชื่อเพลงและเนื้อไทยที่ถูกแปลออกมาอย่างตรงไปตรงมาโดยคุณติ๊ก Playground (กฤษติกร พรสถิต)
อาจจะเพราะด้วยอายุที่แก่ลงและ passion ที่ตัวเองอยากทำมันเริ่มห่างออกไปไกลเรื่อยๆ และการงานก็ไม่ค่อยเอื้อให้เราทำตามฝันได้ เลยกลายเป็นว่าฝันตัวเอง “ฝ่อ” ลงแบบเห็นได้ชัดในปีนี้ แต่ยังมีโชคที่ตัวเองยังพอจะได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากบ้าง อย่างการเขียนบล็อกนี้ หรือการได้มีโอกาสไปจัดรายการ YouTube กับช่อง Club คนใจเผลอ แม้อาจจะไม่ได้จัดถี่ๆ ทุกสัปดาห์ แต่มันก็ช่วยสานฝันและต่ออายุ passion ของผมได้เป็นอย่างดี แม้เนื้อหารายการอาจจะสุ่มเสี่ยงกับกฐินและทัวร์ก็ตามที แต่ก็รู้สึกขอบคุณทุกครั้งที่คนมาทักทายว่าเคยดูรายการและชอบสิ่งที่เราสื่อสารออกไป
การเขียนก็คงพยายามทำอยู่เหมือนเดิม อยากเล่าเรื่องให้เยอะขึ้น ส่วนทำรายการก็ยังอยากทำอยู่ อาจจะกลับมาจัด podcast อีกรอบหลังจากหายไปเป็นปีๆ ก็เป็นได้ (นี่ก็เพิ่งเสียค่า soundcloud ไปอีกปี) จะได้พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูดบ่อยขึ้น เพราะไม่อยากทิ้งฝันเรื่องนี้ไปเลยจริงๆ แต่ถ้าจะให้ดี ถ้างานที่ทำอยู่มีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องก็คงจะดีไม่น้อย
ปล.มีเคยเขียนตามรอยเพลงนี้ไว้อยู่นะ >>
ตามรอย MV Yume wa Nigenai จะไม่หนีจากความฝัน CGM48 ที่เชียงใหม่
ไม่ได้ก็ไม่เอา (Whatever) – PiXXiE (feat.Zom Marie)
ถ้าย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้วมันเห็นความดื้อด้านของเราชัดเจนนัก อารมณ์แบบว่า อยากได้ต้องได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องทำให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม โดยเฉพาะการใช้เงินนี่แหละตัวดีเลย รับจบด้วยเงินเสมอมา
แต่พออายุแก่ลงถึงหลัก 4 ปีที่ 3 แล้ว ความดื้อรั้นและความอยากได้มันน้อยลงแบบเห็นได้ชัด รู้สึกไม่หุนหันพลันแล่นหรือวู่วามเหมือนเมื่อก่อน มีการใช้เวลาคิดหรือไตร่ตรองมากขึ้น เลือกเหตุผลนำอารมณ์ และส่วนใหญ่ก็จะไม่เสียเวลากับเรื่องนี้มาก จากแต่ก่อนที่ต้องตื้อก็ปล่อยแบบช่างแม่งได้ง่ายขึ้น คือถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เอา ซึ่งแทบทุกอย่างมักจะเป็น Nice To Have หรือมีก็ดี ไม่มีก็ได้ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นไม่คาใจ หรือคาใจก็ไม่นานแบบหลับตื่นนึงก็หายไปแล้ว
และแถมมีความเชื่อว่าถ้าของมันใช่ เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวมันก็มาหาเราเอง ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่เอาละ พอละ
การเดินทางที่สวยงาม – Billkin
“พี่แบงค์ไปเชียงใหม่อีกแล้ว” น่าจะเป็นประโยคที่ผมได้ยินบ่อยที่สุดแล้วละมั้งในปี 2023 เนื่องจากผมขึ้นไปเชียงใหม่บ่อย ซึ่งก็บ่อยจริงๆ ไม่ต่ำกว่า 6 รอบได้ ด้วยการเดินทางทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องบิน รถทัวร์ และขับรถขึ้นเชียงใหม่ครั้งแรกในชีวิตก็ปีนี้
การไปเชียงใหม่ก็ด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป เช่น ไม่สบายใจก็ไปไหว้พระธาตุดอยคำ ไปแก้บนกับหลวงพ่อท่านใจ ไปวิ่งมีทั้ง Ultramarathon ซึ่งเป็นการวิ่ง 60km ครั้งแรกในชีวิต และการไปดู CGM48 ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็มักจะถูกเหมาว่าผมไปดู CGM48 เป็นหลักแบบยากจะปฏิเสธ (ก็ใช่แหละครับ แค่มันบังเอิญมีงานน้องๆ พอดีกับสิ่งหลักที่ผมตั้งใจไป)
ทุกครั้งที่เดินทางโดยเฉพาะการขึ้นไปเชียงใหม่ มันเป็นความสบายใจของผมแทบทุกครั้งเลย ทริปโดยส่วนใหญ่ผมมักจะไปคนเดียว และแต่ละครั้งก็จะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าการไปแต่ละสถานที่ ที่เริ่มทดลองอะไรใหม่ๆ หลีกหนีผู้คนนักท่องเที่ยวไปอยู่ในที่ๆ หลบๆ หรือได้เสพความเป็นท้องถิ่น จนถึงขนาดมีความคิดในปีนี้ว่า หรือเราจะหาที่อยู่ที่นี่เป็นบ้านอีกหลังดู ซึ่งความคิดนี้ก็ยังไม่หายไปและน่าจะสานต่อในปีต่อๆ ไป ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะหาไว้สักหลัง/ห้อง
ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เราจะได้ประสบการณ์ใหม่เสมอ ต่อให้เราไปที่เดิมก็ตามแต่การไปต่างช่วงเวลาเพียงเท่านี้เรื่องราวก็เปลี่ยนแล้ว และการได้พบเจอสิ่งใหม่ มันคือรางวัลที่ได้รับจากการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่โต๊ะที่เราใช้แรงงานเพื่อเลี้ยงชีพในทุกวัน
ทุกนาทีที่สวยงาม (Always With Me) – NONT TANONT
ปกติผมเป็นคนที่โคตรผูกใจเจ็บครับ ใครที่พูดอะไรไม่ดีหรือทำไม่ดีกับผมไว้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามผมจะเก็บเอาคำพูดมาตั้งเป็นค่า Default เมื่อได้เจอหน้าคนๆ นั้น ซึ่งก็คือการเว้นระยะห่างของความสัมพันธ์ ซึ่งมันอาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น เป็นไปได้หมด
แต่สิ่งที่เราหรือผมพอจะทำได้ก็คือ การเลือกจดจำสิ่งดีๆ ของคนๆ นั้นไว้มากกว่าการหยิบเอาสิ่งแย่ๆ สิ่งเลวร้ายที่เราเจอมาเป็นสิ่งแรกที่เราคิดถึง แม้มันอาจจะทำยากหรือใช้เวลาสักหน่อย แต่การแค่สลับความสำคัญของสิ่งดีๆ ให้มาก่อนมันก็เป็นเรื่องที่พอจะทำได้มั้งครับ
ถามว่าผมทำได้ไหม ก็ตอบว่ายังไม่ได้แหละ ฮ่าๆ แต่อย่างน้อยผมก็สามารถสลับให้มานึกถึงเรื่องดีๆ ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม จากแต่ก่อนที่คาอยู่ที่คำหรือประโยคแย่ๆ นานกว่านี้มากๆ
เปลี่ยน (Change) – Flure
เก่าจัดเพลงนี้ 21 ปี…
อาจเพราะทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เรามักตั้งกำแพงไว้สูงประมาณนึงเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ตัวเราถูกเปลี่ยนไปให้แบบที่ไม่เหมือนตัวเราเป็นหรือที่ตัวเราชอบ
มันเคยมีวลีคูลๆ ที่บอกเอาไว้ว่า “ถ้าเราไม่เปลี่ยน เดี๋ยวก็มีคนมาเปลี่ยนเรา” ไม่ว่าจะด้วยบริบทเกี่ยวกับอะไรก็ตาม บอกตามตรงว่าทุกครั้งที่ผมได้ยินประโยคนี้ ผม “โคตรเกลียด” เลยให้ตายสิพับผ่า
สำหรับผมแล้ว เรายังสามารถเป็นตัวเราเองได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แค่จำเป็นที่ต้องปรับบางอย่างเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์หรือสภาวะแวดล้อมนั้นๆ โดยยังคงเป็นตัวของตัวเองภายใต้กรอบคำว่า “กาลเทศะ” ซึ่งผู้คนยุคนี้ตั้งแต่มีโควิด เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องยากไปซะอย่างนั้น เอาแต่ใจไปซะทุกเรื่องจนบางทีอาจเรียกได้ว่า “เคยตัว” จนผมต้องเกาหัวว่ามันมีคนแบบนี้และไม่ใช่น้อยๆ ด้วย
คำบรรยายสำหรับเพลงนี้อาจดูเลอะเทอะไปหน่อย แต่ผมแค่รู้สึกว่าผมยังอยากเป็นผมอยู่ด้วยความเป็นแก่น แต่มีการเปลี่ยนไปใน version ที่ดีกว่าเดิมและมีความสุขมากกว่าเดิม
แถมให้อีกเพลง
หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ – เบิร์ด ธงไชย
อาจเป็นเพราะช่วงปีหลังๆ ตัวผมเริ่มคิดถึงเรื่องจิตใจของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมมาก บ่อยครั้งรู้สึกได้เองว่าใจอ่อนล้าจนอยู่เงียบๆ ก็ร้องไห้ได้ จนทำให้รู้สึกว่าเราต้องปรึกษาใครสักคนที่มีความเชี่ยวชาญ จนปีนี้ได้ตัดสินใจใช้บริการของ ooca (เขียนไว้แล้วเมื่อบทความที่แล้ว) ซึ่งก็รู้ถึงสาเหตุเบื้องต้นว่าเราต้องปรับอะไรยังไงบ้าง
ผมเลยอยากส่งต่อความปรารถนาดีให้กับทุกคนที่ผมรู้จัก ถ้าคิดว่าเราเริ่มมีปัญหาเรื่องจิตใจแล้วอย่ารอ อย่าเสียเวลาที่จะให้ตัวเองบั่นทอน ลองปรึกษากับนักจิตวิทยาบำบัดดูสักครั้งครับ ผมค่อนข้างเชื่อว่ามันจะช่วยให้คุณสามารถรู้หัวใจคุณเองมากขึ้น หรือแม้กระทั่งสามารถเริ่มรักษาหากว่าพบปัญหาได้อย่างทันท่วงที
อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นปัญหาค้างคากับตัวเรานานครับ
บล็อกสุดท้ายของปี 2023 ก็หมดแล้ว อาจจะดูเยิ่นเย้อไปนิดแต่สำหรับผมแล้วมันคือสิ่งที่เป็นตัวผมเอง และอันที่จริงยังมีหลายๆ เรื่องที่อยากเล่าแต่ไม่ได้เขียนไว้ในบทความนี้ แต่จะไปอยู่ในโพสต์บน Facebook ส่วนตัวของผม และบางเรื่องก็ขอเก็บไว้คนเดียว
ขอปิดบล็อกด้วยเพลงแห่งปี 2023 ของผมเอง ด้วย verse สุดท้ายที่เป็นประโยคที่ผมเอาไว้บอกตัวเองหลายครั้งมาก ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าความฝันที่ผมอยากทำอยากเป็นมันจะยังคงอยู่หรือเข้าใกล้ความจริงไหม…
ท้ายสุดนี้ สิ่งที่อยากบอก ขอให้เธอจงอย่ายอมแพ้
ถึงตัวเธอเองต้องเจออะไร ยังไงอย่าได้ยอมแพ้
ฝันนั้นมันไม่เคยไปไกล ฝันไม่เคยหนีเราไปไหน
แค่ทำเหมือนเดิม แค่ยื่นมือไป
อาจมีวันนั้น…
สู้ ๆ นะ! Ganbare!…